เรื่องย่อ
วังหลวง ที่ซึ่งใหญ่โตหรูหรา แต่กลับเป็นที่ที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีต้าชิง เจียชิ่งปีที่สิบห้า แม้ว่าบ้านเมืองสงบร่มเย็นแล้วก็ตาม แต่ในวังหลวง สนมในวังหลวงต่างพากันแย่งชิงความเป็นใหญ่กันการคัดเลือกหญิงงามเข้าวังหลวงสามปีจัดครั้งหนึ่งกำลังจะมาถึงหยูเยี่ย(เติ้งชุ่ยเหวิน) ซึ่งเป็นที่ทรงโปรดของฮ่องเต้นั้นไม่อาจเบาใจได้ เนื่องจากคู่แข่งของนาง ไม่ว่าจะเป็นอี้หยิง(หลีจือ)หญิงในตระกูลสูงศักดิ์ เอ่อฉุน(เสอซือม่าน)ลูกบุญธรรมของมหาขันที นอกจากนี้ยังมีอันเชี่ยน(จางเข่ออี้)หญิงสาวที่รู้ธรรมเนียมวังหลวงเป็นอย่างดี ทั้งสี่ต่างเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ทั้งนั้น ทำให้การแก่งแย่งชิงดีกันระหว่างหญิงทั้งสี่เต็มไปด้วยความเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นในที่ลับหรือที่แจ้งก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างหญิงทั้งสี่กับหมอหลวงซุนไป๋หยาง(หลินเป่าอี้)และทหารวังหลวงขงอู่ (เฉินหาว) มีทั้งความรักและเพื่อนรู้ใจ ทุกคนต่างต้องากรมีฐานะในวังหลวง ดังนั้นระหว่างความรักกับมิตรภาพ ล้วนแล้วแต่เป็นแผนการและคำหลอกลวงทั้งนั้น….. ที่มา http://www.thaitv3.com/film/new%20film/war_of_beutey.html
สนมเฉินกำลังจะหนีออกจากวัง แต่ถูกสนมหยูจับได้ สนมเฉินสารภาพกับสนมหยูว่านางแอบใกล้ชิดกับฮ่องเต้ นินทาว่าร้ายและชิงดีชิงเด่นในช่วงที่สนมหยูกำลังตั้งครรภ์ สนมหยูนำนางมาที่ห้องของสนมเฉินและฆ่านาง โดยก่อนนางตายได้อาฆาตสนมหยูไว้
ขงอู่และเฉินส่วงกำลังขนเครื่องบรรณาการไปยังเมืองหลวง ระหว่างทางได้พบกับหญิงสาวจำนวนหนึ่งที่กำลังจะไปเมืองหลวงเพื่อคัดเลือกเป็นหญิงของฮ่องเต้ซึ่งกำลังหนีจากการตามล่าของโจรพรรคเทียนหลีจึงช่วยไว้แต่ก็ทำให้เครื่องบรรณาการเกิดความเสียหาย ในหญิงจำนวนนั้นมีอี้หยิงและเอ่อฉุนด้วย ระหว่างทางเกิดความลำบากทำให้อี้หยิงตัดสินใจสาบานตนเป็นพี่น้องร่วมกับเอ่อฉุน
ขณะเดียวกันในวังได้เกิดความลือเกี่ยวกับสนมเฉินที่ตายไปแล้วว่าไม่ได้ไปผุดไปเกิดและตามอาฆาตสนมหยู สมหยูจึงไปที่ตำหนักสนมเฉินและสั่งไม่ได้เซ่นไว้สนมเฉินและปิดตายห้องนั้นไม่ได้ใครเข้า
เมื่อถึงมืองหลวงปรากฏว่าประตูวังกำลังจะปิดและเลยเวลาคัดเลือก ทหารไม่ให้เข้าเพราะว่ามาช้าไป แต่ฉีกงกงมาทำธุระพอดีจึงช่วยพูดไว้ทหารเกรงใจจึงให้ผ่านไปได้ หญิงสาวทั้งหมดต้องเข้ารับการคัดเลือกโดยละเอียดเพื่อเป็นหญิงของฮ่องเต้ อี้หยิงและเอ่อฉุนได้ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นซึ่งหลังจากนี้นางจะต้องเรียนรู้ถึงขนบธรรมเนียมภายในวัง ระหว่างที่หญิงสาวทั้งหมดกำลังเดินทางไปที่พักปรากฏว่าเจอสนมจำนวนหนึ่งและเกิดปากเสียงกันขึ้นระหว่างเหล่าสนมกับอี้หยิงทำให้เหล่าสนมไม่ค่อยพอใจจึงนำเรื่องไปรายงานให้สนมหยูทราบ อี้หยิงกับเอ่อฉุนพักอยู่ใกล้กันแต่อี้หยิงติว่าห้องร้อนอยากเปลี่ยนห้องแต่นางกำนัลบอกว่าไม่สามารถเปลี่ยนได้จึงทำให้ขัดใจอี้หยิงมาก ในช่วงกลางคืนเนื่องจากอากาศร้อนทำให้อี้หยิงนอนไม่หลับและได้ออกไปหาเอ่อฉุนแต่ไม่เจอ ซึ่งระหว่างนั้นเอ่อฉุน ซู่หลิง และเหยียนฉี หญิงที่ถูกคัดเลือกมาด้วยกันได้แอบออกไปพบกับฉีกงกงซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของพวกนาง
อี้หยิงเดินไปเรื่อยๆจนไปถึงตำหนักของสนมเฉินแต่นางไม่รู้จึงบ่นว่าห้องนี้เย็นกว่าห้องที่นางอยู่ แต่ทำไมไม่ให้นางใช้ ระหว่างที่นางอยู่นห้องนั้นปรากฏว่าอันเชี่ยนซึ่งเป็นนางกำนัลดูแลตำหนักเข้ามาพอดีและบอกว่าห้องนี้ถูกสั่งปิดตายห้ามใครเข้า และห้องนี้มีคนเคยถูกฆ่าตาย และคนตายมีอาฆาต อันเชี่ยนแนะนำให้ให้อี้หยิงสะเดาะเคราะห์โดยอันเชี่ยนได้เขียนยันต์ไว้บนหน้าของอี้หยิงและให้อี้หยิงเดินไปรอบๆวังคนเดียว ส่วนอันเชี่ยนจะไปรอที่สุดทางเดิน ระหว่างที่อี้หยิงเดินไปเกิดกลัวจึงวิ่งโวยวายจนไปเจอสนมหยู สนมหยูได้ซักถามแต่อันเชี่ยนได้เข้ามาช่วยพูด สนมหยูได้อภัยให้และได้ให้อี้หยิงกลับไปได้ ส่วนอันเชี่ยนนั้น สนมหยูได้เรียกตัวคุยก่อนพร้อมทั้งบอกให้อันเชี่ยนอย่าปกป้องคนอื่น ไม่อย่างนั้นชีวิตอาจไม่ยืนยาว
อี้หยิงกลับมาที่พักและร้องไห้ที่ถูกแกล้ง พร้อมทั้งถูกหญิงงามคนอื่นๆซ้ำเติม มีแต่เอ่อฉุนคอยปลอบ อันเชี่ยนมาพอดีอี้หยิงจึงเข้าไปว่า อันเชี่ยนจึงตักเตือนให้นางทำตามกฏระเบียบ และให้รู้จักดูสถานการณ์เพราะพวกนางก็ยังไม่ได้รับเลือก เป็นเพียงสาวงาม จึงควรเชื่อสั่งนางเพื่อให้ได้รับคัดเลือก พวกสาวงามจึงต้องกลับเข้าห้อง
เอ่อฉุน ซู่หลิง และเหยียนฉี ได้มานั่งประชุมกันเรื่องของอี้หยิง เพราะอี้หยิงสวยที่สุดในบรรดาสาวงามแต่ตอนนี้อี้หยิงล่วงเกินสนมหยูเข้าจะเป็นผลดีต่อพวกนางทั้งสาม พวกนางจึงร่วมมือกันกำจัดอี้หยิงโดยอาศัยความไว้ใจของอี้หยิงกับเอ่อฉุน อย่าให้อี้หยิงรู้ความจริงว่าเอ่อฉุนกำลังหลอกอี้หยิงอยู่
ฉีกงกงกลับจากวังพร้อมทั้งเหล่าเรื่องอี้หยิงให้กับภรรยาฟัง พร้อมทั้งพูดถึงหญิงทั้งสามที่ฉีกงกงส่งเข้าวัง ฉีกงกงเหล่าเรื่องที่มีขุนนางฉ้อราษฏร์บางหลวง และฉีกงกงกำลังเข้าร่างแห ถ้าหากสาวงามที่ตนส่งเข้าไปไม่ได้รับคัดเลือก อาจทำให้ส่งผลไม่ดีต่อตน
ขงอู่กำลังเล่นพนันและดวงขึ้น มีอันธพาลเข้ามาพนันแต่ก็เสีย พอดีเฉินส่วงมาตามไปพบไต้เท้าเกี่ยวกับเรื่องบรรณาการขงอู่จึงเลิกเลิน แต่มีคนโวยวายจึงให้เล่นอีกตา โดยมีหญิงสาวได้นำเงินของซุนไป่หยางมาเล่นแทนด้วยแต่ปรากฏว่าขงอู่ก็ชนะอีก และขงอู่ไม่ยอมรับเงินของซุนไป่หยางให้หญิงผู้นั้นนำเงินไปคืน
ระหว่างที่ขงอู่กับเฉินส่วงกำลังเดินทางไปหาไต้เท้าได้ถูกอันธพาลจับตัวไปซ้อมและขโมยเงินไป ทำให้ทั้งสองไม่มีเงิน และไต้เท้าที่ทั้งสองจะไปหาได้ตายไปแล้ว
ไต้เท้าซุนพ่อของซุนไป่หยางมาตรวจครรภ์ของสนมหยู โดยตรวจพบว่าสนมหยูครรภ์ผิดปกติ แต่ไม่ได้รายงานสนมหยู สนมหยูสงสัยจึงไปหาฮองเฮาเพื่อแสดงให้เห็นว่านางแข็งแรงดี แต่ระหว่างนั้นนางเกิดหน้ามืด จึงให้ไปตามซุนไป่หยางมาแทน ซุนไป่หยางรายงานไปตามความจริงว่าครรภ์อยู่ผิดตำแหน่งอาจทำให้อันตรายได้ สนมหยูต้องการให้ซุนไป่หยางช่วยนางและรักษาครรภ์ไว้ ซุนไป่หยางตกลงและไปรายงานต่อฮองเฮาว่าไม่มีอะไรผิดปกติกับครรภ์ของสนมหยู จึงทำให้ถกเถียงกันระหว่างซุนไป่หยางและพ่อ ฮองเฮาจึงให้ซุนไป่หยางเป็นหมอประจำตัวของสนมหยูและคอยดูแลครรภ์ของนาง
ขณะที่ซุนไป่หยางกำลังกลับ พ่อได้เดินมาเตือนแต่ซุนไป่หยางดื้อรั้น ไม่เชื่อฟังพ่อและเดินจากไป
ขงอู่และเฉินส่วงได้ไปหาผู้ที่รับผิดชอบเรื่องบรรณาการเพื่อรายงาน แต่ใต้เท้าท่านนั้นให้คนทั้งสองชดใช้เงินมาในวันพรุ่งนี้
ขงอู่และเฉินส่วงกลับมาที่พักและทานข้าว เจ้าของที่พักเดินมาบริการ ขงอู่จึงให้เจ้าของร้านเตรียมตั้งโต๊ะพนันให้ด้วย พอดีอันธพาลเดินเข้ามาในร้าน ขงอู่จึงเข้าไปหาเรื่องเพื่อให้ถูกไล่ออกจากร้านจะได้ไม่ต้องเสียเงินค่าอาหาร เพราะทั้งสองไม่มีเงิน ขณะที่ทั้งสองถูกไล่ออกมาก็เจอกับซุนไป่หยางพอดี ซุนไป่หยางจึงแนะนำให้ทั้งสองกลับบ้านนอก เพราะเมืองหลวงมีแต่เรื่องวุ่นวายพร้อมทั้งคืนเงินที่เล่นพนันครั้งก่อนแล้วแพ้ให้ แต่ขงอู่ไม่รับเพราะว่าตนไม่ใช่ขอทานและตนไม่มีทางสิ้นไร้ไม้ตอกอย่ามาดูถูก ซุนไป่หยางจึงนำเงินดังกล่าวไปให้กับคนที่หามเกี้ยวมาให้แทน
เฉินส่วงหิวอยากกินหมี่จะเอาเสื้อขงอู่ไปแลกเงินเพื่อกินข้าว ปรากฏว่าแย่งกันจนเสื้อขาดและมีผ้าเช็ดหน้าไหมแอบอยู่ในเสื้อ พอดีผู้ที่รับผิดชองเรื่องบรรณาการตกน้ำขงอู่จึงลงไปช่วย ทั้งสองจึงถูกฝากไปทำงานในวังเพื่อจะได้นำเงินมาชดใช้ ขงอู่คิดว่าตั้งแต่ได้ผ้าเช็ดหน้ามา ดวงก็เริ่มดีขึ้น และสงสัยว่าผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมาจากไหน
วันนี้วันเกิดอันเชี่ยน เสี่ยวลู่จื่อจึงนำของกินมาฉลองวันเกิดให้ ซึ่งปีนี้อันเชี่ยนจะได้อยู่ในวังเป็นปีสุดท้าย เพราะจะได้กลับบ้านนอกแล้ว เสี่ยวลู่จื่อได้ทำผมให้อันเชี่ยนเป็นของขวัญวันเกิด เพราะเสี่ยวลู่จื่อมีฝีมือในการทำผม
ผู้ที่รับผิดชอบเรื่องบรรณาการพาขงอู่และเฉินส่วงไปหาไต้เท้าเฉาเพื่อฝากทำงานนวัง ทั้งสองได้ทำงานซ่อมตำหนักที่เก็บป้ายบรรพาชนของวัง ขงอู่คิดว่าทำงานในวังมีโอกาสที่ดีกว่าไปทำงานข้างนอก แต่เฉินส่วงไม่ได้คิดเช่นนั้น ระหว่างนั้นเองขงอู่ก็ได้ยนเสียงขลุ่ยจึงปีนไปดูวังหลวง
ซุนไป่หยางรักษาครรภ์ของสนมหยูเพื่อให้ครรภ์กลับเข้าตำแหน่งเดิม จากนั้นจึงลาสนมหยู ฉีกงกงจึงชวนซุนไป่หยางไปทานที่บ้านตนและให้ของกำนัลเนื่องจากซุนไป่หยางได้รักษาครรภ์ของสนมหยู สีกงกงต้องการรู้ว่าครรภ์ของสนมหยูเป็นอย่างไรบ้างจึงลองใจซุนไป่หยาง ซึ่งซุนไป่หยางได้แสดงเจตนารมภ์ว่าครรภ์ของสนมหยูปลอดภัยดีโดยการหยบยาเกี่ยวกับการบำรุงครรภ์ ทำให้ฉีกงกงได้รู้ว่าครรภ์ของสนมหยูยังสมบูรณ์ ทำให้ตำแหน่งของสนมหยูยังแข็งแกร่งอยู่
ซุนไป่หยางได้กลับมาที่พักซึ่งเป็นหอนางโลมซึ่งวันนี้เป็นวันครบรอบวันตายของแม่ ซุนไป่หยางได้กลับไปที่บ้านเพื่อกลับไปเคารพป้ายของแม่และได้ทะเลาะกับพ่อ เมียของซุนไป่หยางจึงเข้ามาห้าม ไต้เท้าซุนเตือนซุนไป่หยางเรื่องวิธีการรักษาครรภ์ของสนมหยูซึ่งครรภ์อาจอยู่ไม่ถึงกำหนดคลอด แต่ซุนไป่หยางเชื่อมั่นว่าสามารถรักษาครรภ์ไว้ได้ ไต้เท้าซุนจึงพูดว่าแม่ของซุนไป่หยางคงเสียใจ แต่ซุนไป่หยางกลับบอกว่าพ่อไม่มีสิทธิพูดถึงแม่เพราะว่าพ่อไม่เคยสนใจนางเลย สนใจแต่ขุนนางในวังเท่านั้น พร้อมทั้งกลับออกไป เมียของซุนไป่หยางจึงเข้ามาปลอบและบอกว่าซุนไป่หยางยังไม่ลืมการตายของแม่แต่ไม่คิดเป็นปรปักษ์กับพ่อ ไต้เท้าซุนจึงกล่าวว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าเค้ากลับมาไม่ทันที่แม่ของซุนไป่หยางเสียชีวิต พร้อมทั้งเสียใจที่ให้ให้นางมาแต่งงานกลับซุนไป่หยางเพราะซุนไป่หยางต้องการแก้แค้นจึงอยู่แต่หอนางโลม
เหล่าหญิงงามต้องฝึกเดินส้นสูงแต่ด้วยความไม่ชินทำให้อี้หยิงเท้าบวม เอ่อฉุนจึงให้นางกำนัลนำน้ำร้อนมาให้อี้หยิงแต่กลับเกิดการทะเลาะกันกับพวกซู่หลิง และเหยียนฉี เป็นเหตุให้น้าหกใส่เอ่อฉุน อันเชี่ยนเข้ามาเคลียร์ให้ จากนั้นเอ่อฉุนจึงมานวดเท้าให้อี้หยิง อี้หยิงสงสารเอ่อฉุนในขณะที่เอ่อฉุนรู้สึกเป็นหวัดเพราะโดนน้ำหกใส่ ทั้งสองปรึกษากันเรื่องงานเลี้ยงว่าชุดที่ใส่ต้องไม่เด่น สีต้องไม่เหมือนสนมหยูเพราะจะทำให้สนมหยูไม่พอใจ อี้หยิงบอกว่าไม่เป็นไร เพราะนางมีเงินเดี๋ยวก็สืบได้
เอ่อฉุนกลับไปพบกับซู่หลิง และเหยียนฉี นางพูดถึงอี้หยิงว่าอี้หยิงฉลาดที่รู้จักใช้เงินซื้อข่าวแต่ว่านางต้องให้เอ่อฉุนทำให้เพราะว่านางเจ็บขา ดังนั้นนางจะรู้ได้อย่างไรว่าข่าวที่ได้เป็นข่าวจริงหรือเท็จ ระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่อันเชี่ยนและนางกำนัลได้มาที่ห้อง เอ่อฉุนจึงรีบไปหลบ อันเชี่ยนได้กลิ่นน้ำมันนวดที่เอ่อฉุนนวดให้อี้หยิงทำให้นางรู้ว่าเอ่อฉุนเป็นพวกเดียวกับทั้งสองคน และรู้ว่าที่พวกนางทะเลาะกันเมื่อตอนเย็นเป็นเพียงการเล่นละครของพวกนาง อันเชี่ยนได้นำเรื่องนี้มาเล่าให้เสี่ยวลู่จื่อฟัง และหวังว่าพวกนางจะไม่ทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
ในวันงานเลี้ยงที่ฮองเฮาจัดขึ้นได้มีการสืบว่าสนมหยูจะใส่เสื้อสีอะไรทำให้รู้ว่าสนมหยูจะใส่เสื้อสีเหลือง จึงให้เอ่อชุนไปบอกอี้หยิงว่าสนมหยูใส่เสื้อสีม่วง เอ่อชุนแนะนำอี้หยิงว่าให้อี้หยิงใส่สีเหลือง ระหว่างนั้นสนมหยูเปลี่ยนใจจะใส่เสื้อสีน้ำเงินทำให้ต้องมีการแจ้งข่าวใหม่ เอ่อชุนจึงหลอกล่ออี้หยิงจนชุดของนางเปียก เอ่อชุนจึงบอกให้ใส่ชุดของนางซึ่เป็นสีน้ำเงินไปแทนเพราะนางไม่สบายไม่สามารถไปได้ อันเชี่ยนเห็นอี้หยิงใส่ชุดสีน้ำเงินจึงเข้าไปเตือนว่ามีข่าวว่าสนมหยูใส่ชุดสีน้ำเงิน อี้หยิงไม่ควรใส่เสื้อสีนี้ แต่นางไม่เชื่อ เมื่อไปถึงงานปรากฏว่าสนมหยูใส่เสื้อสีแดง เพราะว่านางรู้ว่าฮองเฮาใส่สีแดงเพื่อคานอำนาจกัน เมื่องานเสร็จสิ้นอี้หยิงได้กลับมาต่อว่าอันเชี่ยนว่าอันเชี่ยนต้องการให้นางผิดใจกับเอ่อฉุนจึงพูดใส่ร้ายเอ่อฉุน
อันเชี่ยนกำลังเป่าขลุ่ยอยู่ก็มีนางกำนัลมาหาพร้อมทั้งบอกให้อันเชี่ยนสอนนางเป่าเพราะนางคิดถึงบ้าน ขณะนั้นเองขงอู่ได้ยินจึงเป่าขลุ่ยตอบ
ต้าเหนียงหรือภรรยาของฉีกงกงไปเสี่ยงเซีมซีเพื่อขอพรให้ลูกบุญธรรม โดยในเซียมซีบอกว่าให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหวจึงจะได้ผลดี เมื่อต้าเหนียงกลับมาที่บ้านพบฉีกงกงกำลังโมโหเพราะกำลังมีการสอบสวนเรื่องฉ้อราษฏร์บางหลวง ขณะที่กำลังโมโหอยู่นั้น ไต้เท่าโจซึ่งเป็นตุลาการได้มาหาฉีกงกงเพื่อเชิญตัวไปสอบสวนเรื่องสินบนที่อำเภอนอกเมืองสองถึงสามวัน ฉีกงกงจึงสั่งเสียต้าเหนียงให้ดูแลทุกคนให้เชื่อฟัง ซึ่งนั่นก็หมายรวมถึงสาวๆที่ส่งเข้าวังด้วย
เอ่อฉุนมาหาซู่หลิง และเหยียนฉี ปรึกษากันเรื่องที่ฉีกงกงถูกเชิญไปสอบสวน ซึ่งนางเหล่านั้นเป็นห่วงฉีกงกงมาก และต้าเหนียงได้ฝากบอกมาว่าทำอะไรให้ระวังอย่าวู่วามพลีพลาม เอ่อฉุนบอกว่าอันเชี่ยนรู้แล้วว่านางทั้งสามเป็นพวกเดียวกัน เพราะฉะนั้นทำอะไรต้องระวัง แต่ซู่หลิงเห็นว่าอันเชี่ยนเป็นเพียงบ่าวถ้าขู่ก็ไม่น่าจะมีอะไร และพวกนางมีความคิดว่าควรจะทำอะรสักอย่างเพื่อช่วยฉีกงกง
เอ่อฉุนนั่งเหม่อมองใบเซียมซีที่ต้าเหนียงแอบนำมาให้ที่ศาลาด้านนอก อี้หยิงเข้ามาถามสารทุกข์ เอ่อฉุนเล่าให้ฟังว่านางมีพี่สาวหนึ่งคนที่พรัดพรากกัน อี้หยิงจึงปลอบ ขณะนั้นมีนางกำนัลเดินมา เอ่อฉุนจึงถาม นางกำนัลบอกว่าฮ่องเต้กลับวังก่อนกำหนด จึงต้องไปช่วยเก็บกวาด
ขณะที่สาวๆกำลังฝึกเดินกันอยู่ มีหญิงจำนวนหนึ่งกำลังพูดคุยกันเรื่องที่มีวิญญาณอาฆาตในวัง ขณะนั้นเอ่อฉุนก็ได้รับบาดเจ็บจากการมีเข็มอยู่ในรองเท้า อันเชี่ยนจึงถูกตำหนิจากอี้หยิง และถูกเอ้อกงกงเรียกไปลงโทษ เอ่อฉุนรีบเข้าไปรับผิดบอกว่าเป็นความผิดของเอ่อฉุนเองที่ไม่ระวังทำเข็มตกในรองเท้าเอง อันเชี่ยนจึงไม่มีความผิด เมื่อเอ้อกงกงกลับไปเอ่อฉุนได้พูดกับอันเชี่ยนว่าให้อันเชี่ยนทำหน้าที่ของตนเองให้ดี ไม่ใช่เรื่องของตนก็อย่าไปสนใจ เพราะอันเชี่ยนคงอยากกลับบ้านเร็วๆ
อันเชี่ยนมาพบนางกำนัลชื่อซู่ยิงกำลังนั่งร้องไห้เพราะโดนรังแก เพราะคิดว่าซู่ยิงเป็นสายของฮองเฮามาสืบเรื่องของสนมหยู อันเชี่ยนปลอบใจว่าให้เข้มแข็ง อดทน เพราะสักวันก็จะได้ออกจากวังกลับบ้าน ขณะนั้นมีกงกงคนสนิทของสนมหยูได้มาตามนางกำนัลคนนี้ให้ไปเรียกซุนไป่หยางมาตรวจครรภ์ของสนมหยู
ขณะที่ซุนไป่หยางกำลังไปตำหนักของสนมหยูด้วยความรีบร้อนก็เจอกับไต้เท้าซุน ไต้เท้าซุนจึงบอกเรื่องที่หอแพทย์รู้ว่าซุนไป่หยางใช้วิธีที่ไม่ถูกต้องในการรักษาสนมหยูและกำลังจะเอาเรื่องจึงแนะนำให้ซุนไป่หยางรีบหนีไปจากที่นี่โดยรถม้าที่เตรียมไว้ เมื่อไต้เท้าบอกเสร็จก็จากไป
ซุนไป่หยางผ่านไปยังตำหนักที่กำลังซ่อมแซมเจอคนงานตกลงมา แต่ไม่สามารถรักษาได้เพราะคนงานคนนั้นได้ตายแล้ว แต่เหล่าคนงานไม่เข้าใจคิดว่าซุนไป่หยางไม่ยอมช่วยจึงโวยวาย ทหารที่คุมจึงเข้ามาห้ามให้ทำงานต่อ
ซุนไป่หยางมาตรวจสนมหยูพบว่าอาการไม่ดี เพราะครรภ์เคลื่อนต่ำ สนมต้องการให้รักษาครรภ์ไว้ ซุนไป่หยางจึงแนะวิธีว่าต้องช้วิธีคลอดก่อนกำหนด เพราะไม่เช่นนั้นอาจตายทั้งแม่และลูก ระหว่างนั้นฮองเฮาได้มาเยี่ยม สนมหยูจึงออกไปรับ ฮองเฮานำของมาให้แต่สนมหยูปัด เพราะกลัวว่าฮองเฮาจะสร้างเรื่องทำให้นางแท้งได้ หลังจากที่ฮองเฮากลับไปสนมหยูจึงตัดสินใจใช้วิธีที่ซุนไป่หยางบอก แต่ซุนไป่หยางต้องรับปากว่าต้องสำเร็จ
ในระหว่างที่สนมหยูกำลังคลอดอยู่นั้นเกิดฝนตก กงกงคนสนิทของสนมหยูได้สั่งให้ซู่ยิงไปจับกบที่ร้องอยู่ข้างนอก ระหว่างที่นางจับอยู่นั้นมีกบตัวหนึ่งเข้าไปในพระตำหนักของสนมหยู และอยู่ๆเจ้าแม่กวนอิมประทานลูกของสนมหยูก็ตกลงมา กงกงเข้ามาเห็น ซู่ยิงตกใจจึงวิ่งหนี กงกงจึงให้คนออกติดตามเพราะกลัวความผิดจากสนมหยู
เฉินส่วงมาเก็บเครื่องประดับในตำหนักที่ซ่อมแซมและขงอู่ไปพบเข้าจึงสอบถาม ขณะนั้นซู่ยิงได้หนีจนพลัดตกลงไปในบ่อ จึงเป่าขลุ่ย ขงอู่ได้ยินจึงมาช่วยและพาไปหลบในตำหนักที่ซ่อมแซมอยู่ ขณะเดียวกันกงกงได้พาคนมาตามหาซู่ยิงที่ที่พักของอันเชี่ยน อันเชี่นรจึงออกตามหา และไปเจอนางที่ตำหนักที่ซ่อมแซม ขณะเดี่ยวกันกงกงตามมาขงอู่จึงพิสูจน์ให้ดูว่าที่แท้เจ้าแม่กวนอิมแตกนั้นเป็นฝีมือของอีกามิใช่ฝีมือของซู่ยิง
การคลอดของสนมหยูได้รับความปลอดภัยแต่เด็กที่คลอดเป็นผู้หญิง สร้างความผิดหวังแก่สนมหยู
เมื่อกงกงกับอันเชี่ยนไปรายงานเอ้อกงกง ปรากฏว่าเอ้อกงกงบอกว่ายังไงก็ต้องมีคนรับผิด ซึ่งไม่สามารถทำโทษอีกาได้ เพราะมีกฏว่าห้ามทำร้ายอีกาเพราะอีกาเป็นเทพ อันเชี่ยนพยายามขอร้องแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ นางจึงนำยาพิษไปให้ซู่ยิงคนนั้นโดยไม่ได้บอกให้นางรู้ว่าเป็นยาพิษ อันเชี่ยนเสียใจมากแต่น่งกำนัลทำผิดต้องตาย แต่อันเชี่ยนก็ได้ขอร้องเอ้อกงกงให้นำศพของซู่ยิงท่านนั้นกลับบ้าน
ขงอู่เป็นทหารหามศพของซู่ยิงระหว่างที่ซ่อมแซมตำหนักก็ตกใจ
ซุนไป่หยางตรวจอาการสนมหยูหลังคลอดคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สนมหยูขอบใจซุนไป่หยาง และอยากให้ซุนไป่หยางภักดีกับนาง แล้วจะได้ดีในอนาคต ระหว่างที่ซุนไป่หยางกำลังกลับ เด็กที่ติดตามได้ถามว่าจะกลับคลังยาหรือไม่เพราะหาแพทย์รู้แล้ว ซุนไป่หยางบอกว่านั่นเพียงการขู่มิเช่นนั้นทั้งสองคนคงไม่ามารถออกจากตำหนักได้อย่างปลอดภัย
ขงอู่เอาก้อนหินมายิงอีกาด้วยความโมโหซุนไป่หยางเห็นเข้าจึงเตือน แต่ขงอู่ไม่สนใจ ทั้งปะทะคารมกัน
เมื่อซุนไป่หยางกลับมาที่หอแพทย์เจอไต้เท้าซุน ไต้เท้าซุนจึงเข้ามาเตือน จึงทำให้เกิดการทะเลาะกัน
ซุนไป่หยางไปหาหญิงที่หอนางโลม ซุนไป่หยางเล่าถึงแม่ให้นางฟังว่าพ่อของเค้าไม่ได้มีเวลาให้กับแม่จนสุดท้ายวันหนึ่งแม่ไม่สบายแต่ก็รอจนที่สามีจะกลับมาดูจนตายไป แต่พ่อก็ยังไม่กลับ ด้วยเหตุนี้ซุนไป่หยางจึงโกรธพ่อมาก แต่เพราะเรื่องสนมหยู พ่อจึงยอมโกหกเพื่อปกป้องซุนไป่หยาง
สนมหยูกำลังเดินเล่นในอุทยานและคิดเรื่องเกี่ยวกับความงามของตนว่าอีกไม่นานก็ต้องร่วงโรยเหมือนดอกไม้ ขณะนั้นเหล่าสาวงามกำลังเล่นว่าวกันที่ตำหนักและว่าวของเอ่อฉุนขาดนางจึงเล่นไปเก็บว่าวที่ขาดจนชนกับฮ่องเต้ ฮ่องเต้เกิดความสนใจนางจึงพูดคุยด้วย ฮ่องเต้ขอถุงกำยานจากนาง แต่เอ่อฉุนปฏิเสธแต่จะทำใบใหม่ให้ ฮ่องเต้จึงจากไป เหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ในสายตาของสนมหยูตลอด นางจึงเรียกเอ่อฉุนไปพบ สนมหยูถามเรื่องที่ฮ่องเต้ขอถุงยาทำไมเอ่อฉุนไม่ให้ เอ่อฉุนตอบว่าเป็นเพราะว่าถุงยาเก่าแล้วไม่เหมาะสมกับฮ่องเต้ สนมหยูจึงขอให้ตนเอง แต่เอ่อฉุนบอกว่ายังไงนางก็ต้องทำให้ฮ่องเต้อยู่แล้ว เดี๋ยวนางจะทำให้สนมหยูด้วย สนมหยูจึงถามว่าทำไมถึงให้คนอื่นไม่ได้ เอ่อฉุนอ้ำอึ้งก่อนตอบว่าเป็นเพราะเป็นของที่ญาติผู้พี่ที่บ้านให้มาก่อนหน้าเข้าวัง สนมหยูบอกว่าเมื่อเจ้าเข้ามาในวังแล้ว ในใจของเจ้าต้องมีแต่ฮ่องเต้เท่านั้น สำหรับคนอื่นเป็นเพียงความฝัน เก็บไว้ในใจก็ได้แต่อย่าเปิดเผยให้ใครรู้ พร้อมทั้งคืนถุงยาให้กับนาง
กงกงคนสนิทชมสนมหยูที่เตือนนาง ทำให้รู้ว่าสนมหยูจะสนับสนุนเอ่อฉุน เพราะเห็นว่าฮ่องเต้สนใจนาง และนางก็มีคนรักแล้วทำให้ในใจของนางไม่มีฮ่องเต้ แต่ต้องคอยดูไปก่อน เพราะถ้าเอ่อฉุนมีจุดประสงค์แอบแฝง สนมหยูก็มีสิทธิ์เขี่ยนางตกลงมาได้
ฉีกงกงชมเอ่อฉุนที่วางแผนได้ยอดเยี่ยมทำให้สนมหยูเริ่มไว้ใจ เอ่อฉุนนั้นรับคำชมของฉีกงกง
ซุนไป่หยางได้นำยาที่เอ่อฉุนขอไว้มาให้ จึงได้เห็นลายที่นางจะปักลงบนถุงยาเพื่อถวายให้ฮ่องเต้ว่าเป็นลายมังกร ซุนไป่หยางจึงแนะนำว่าควรจะเป็นลายเป็ดคู่ดีกว่า เพื่อสื่อความรักกับฮ่องเต้ เพราะการปฏิเสธฮ่องเต้ในอุทยานเป็นการทำให้ฮ่องเต้สนใจถือว่าเป็นโอกาสที่ดี ไม่เช่นนั้นจะเหมือนกับสนมหลายคนในวัง เอ่อฉุนจึงเปรียบเทียบกับสนมฟุด้วยความหึงหวงความสัมพันธ์ระหว่างซุนไป่หยางกับสนมฟุ แต่ซุนไป่หยางไม่รู้ตัวจึงอวยพร พร้อมทั้งขอตัวออกไป
เอ่อฉุนไปพบสนมฟุและพบว่าสภาพความเป็นอยู่ของสนมฟุไม่ดีนัก เมื่อนางไปถึงพบสนมฟุเป็นลมอยู่ แต่นางกำนัลกลับไม่เหลียวแล เอ่อฉุนจึงดูแลสนมฟุและว่านางกำนัลคนนั้น ซุนไป่หยางได้มาตรวจสนมฟุ พร้อมทั้งว่านางกำนัลคนนั้น จากนั้นซุนไป่หยางจึงขอตัวกลับเพื่อไปจัดยามาให้ เมื่อซุนไป่หยางจากไปสนมฟุจึงบอกว่าความจริงนางผิดเองที่ไม่สามารถถวายงานฮ่องเต้ได้ ดีที่ได้ซุนไป่หยางดูแล และมีที่ซุกหัวนอนก็ดีแล้ว เอ่อฉุนจึงถามถึงสัมพันธ์ของสนมฟุกับซุนไป่หยาง สนมฟูเล่าเรื่องที่นางเข้าวังและได้เป็นสนม แต่ต่อมานางก็ป่วยเป็นโรคหัวใจและได้ซุนไป่หยางดูแลถือเป็นวาสนาของตน เอ่อฉุนเห็นว่าอากาศหนาวจึงมอบเสื้อคลุมให้นาง
ต้าเหนียงไปดูดวงให้เอ่อฉุนและพบว่านางกำลังจะได้ดี ทำให้ตนเองนั้นสบายใจ
อี้หยิงนั้นหลังจากถูกย้ายตำหนัก บ่าวไพร่ก็ไม่ค่อยดูแล พอดีซุนไป่หยางมาตรวจอาการและให้นางสงบจิตใจอย่าอาละวาด นางจึงวิ่งออกมาจากตำหนักพบสนมหยูกำลังนั่งเล่นที่อุทยาน นางจึงเข้าไปขอร้องให้พานางกลับตำหนักเดิมเพราะนางไม่ได้เป็นอะไร และเรื่องต่างๆนั้น นางถูกใส่ร้าย นางยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้สนมหยูเชื่อใจ สนมหยูจึงให้นางทำลายโฉมหน้าของนางเอง แต่อี้หยิงตัดใจทำไม่ได้ ซุนไป่หยางจึงเข้ามาช่วยนางเพื่อพาตัวกลับ เมื่กลับมาที่พักอี้หยิงได้ต่อว่าซุนไป่หยางว่าเป็นเพราะเค้าทำให้นางเป็นเช่นนี้ ซุนไป่หยางบอกว่าวิธีนี้จึงจะทำให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะสนมหยูไม่ไว้ใจท่านอีกแล้ว อี้หยิงจึงทวงตั๋วเงินที่ถูกเผาตอนที่ถูกย้ายตำหนัก แต่ซุนไป่หยางกลับคิดว่านางจะเอาตั๋วเงินไปเพื่อจะได้ไว้ติดสินบนจึงต่อว่านาง นางบอกว่าถ้าไม่ช่วยก็ออกไปและอย่ามาให้นางเห็นหน้าอีก
อันเชี่ยนนำเสื้อผ้าสะอาดมาให้อี้หยิงและพบว่าอี้หยิงกำลังเขียนจดหมายถึงแม่ก็เข้าใจว่านางกำลังจะขอความช่วยเหลือจากแม่ แต่อี้หยิงบอกว่าแม่ของตนไม่สามารถเอาตั๋วเงินมาให้ได้แล้ว แต่จดหมายนี้นางสัญญากับแม่ว่าก่อนถึงวันไหว้พระจันทร์จะส่งจดหมายไปให้นาง เพื่อที่แม่จะได้ไม่เป็นห่วง อี้หยิงไม่อยากให้แม่เสียใจ อันเชี่ยนเข้าใจจึงช่วยนางเขียนจดหมาย อี้หยิงจึงมอบต่างหูของนางซึ่งเป็นของมีค่าชิ้นสุดท้ายให้แก่อันเชี่ยนเพื่อความช่วยเหลือครั้งนี้
อันเชี่ยนได้ไปขอความช่วยเหลือในการส่งจดหมายของอี้หยิงจากเสี่ยวลู่จื่อ แต่เสี่ยวลู่จื่อบอกว่าช่วงนี้ทหารยามกำลังเข้มงวด นางจึงให้เสี่ยวลู่จื่อนำจดหมายพร้อมเงินจำนวนหนึ่งไปให้เฉินส่วงเพื่อนำออกไปแต่เหตุการณ์นั้นเป่าฉานแอบเห็นเข้าพอดี
กงกงคนสนิทได้มาถามขงอู่เกี่ยวกับของที่ส่งออกไปว่าทำไมถึงยังไม่ได้เงิน ขงอู่จึงบอกว่าช่วงนี้กำลังหน้าสิ่วหน้าขวานของจึงยังเอาออกไปไม่ได้ กงกงจึงบอกว่าแต่ของในนั้นมีของเป่าฉานอยู่ด้วย และถ้ายังไม่ได้ขายไป นางก็อยากได้คืน ขงอู่จึงให้เป่าฉานมาดูของที่จะนำออกออกวัง เป่าฉานค้นดูพบจดหมายของอี้หยิงนางจึงจะเอาไป แต่ขงอู่ขัดขวางไว้ เป่าฉานจึงต่อว่าที่ขงอู่ไม่ให้และจากไป เฉินส่วงได้ตามเป่าฉานมาและขอโทษแทนขงอู่ และเยินยอนาง ต่อไปถ้านางต้องการอะไรเฉินส่วงยินดีทำให้ เป่าฉานจึงถามถึงเวลาที่จะนำของออกจากวังและเฉินส่วงได้บอกไป
เป่าฉานกับกงกงปรึกษากันเรื่องที่จะนำจดหมายออกมา เป่าฉานบอกว่าตอนนี้เฉินส่วงสนใจนางและบอกกับนางว่าเมื่อไหร่จึงจะนำของออกนอกวัง เมื่อนั้นเราก็ไปขโมยมาแล้วไปถวายให้สนมหยูรับความดีความชอบ
อันเชี่ยนกำลังทำงานอยู่ ขงอู่ได้มาหาและบอกว่าเรื่องส่งจดหมายหรือส่งของต่างๆ ให้มาหาตนโดยตรงไม่ต้องผ่านใคร อันเชี่ยนจึงบอกว่าเกรงจะทำให้ขงอู่เดือดร้อน พอดีฝนกำลังจะตก ขงอู่จึงช่วยนางเก็บผ้าที่ตากไว้
ขงอู่กำลังเข้าเวรและเจอเป่าฉานโดนงูพิษกัด ขงอู่จึงช่วยไว้ และแบกนางไปหาหมอ นางจึงประทับใจขงอู่
ต้าเหนียงได้พบกับซุนไป่หยางและฝากจดหมายพร้อมใบเซียมซีไปให้เอ่อฉุน ซุนไป่หยางจึงอ่านเซียมซีดูพบว่าไม่ใช่เซียมซีที่ดี ต้าเหนียงบอกว่าเซียมซีนี้เป็นการบอกว่าพี่สาวของนางได้ตายไปแล้ว เพราะเรื่องนี้จึงจะรักษาชีวิตไว้ได้
ซุนไป่หยางไปหาสนมฟุเพื่อตรวจอาการพบเอ่อฉุนอยู่ที่นั่นจึงได้พูดคุยกัน เอ่อฉุนสงสารชะตาชีวิตของสนมฟุ ซุนไป่หยางจึงได้นำของที่ต้าเหนียงฝากมาให้เอ่อฉุน เมื่อเอ่อฉุนอ่านแล้วก็หลับไปที่ห้องของตนและเสียใจ
ซุนไป่หยางกลับมาที่หอนางโลมและไม่เข้าใจ เพราะทำอย่างนี้มีแต่ฉีกงกงที่ได้ประโยชน์
ซุนไป่หยางมาตรวจอาการของเอ่อฉุนพบว่านางไม่สบายใจและนอนไม่หลับ แต่นางบอกว่านางอยากเห็นดวงดาวเพราะคนเมื่อตายจะเป็นดวงดาว ทำให้ซุนไป่หยางสงสารนางมาก
สนมหยูได้เรียกเอ่อฉุนเข้าพบถามว่านางทำถุงยาเสร็จหรือยัง เพราะจะให้นางขึ้นถวายพร้อมกับถวายตัวเพื่อปรนนิบัติฮ่องเต้ด้วย เมื่อนางกลับมาที่ห้องพบของที่ซุนไป่หยางฝากไว้ให้ พบว่าเป็นโคมไฟหมุนที่เหมือนกับที่ดวงดาวอยู่เต็มห้องทำให้นางปลื้มใจมาก
ซุนไป่หยางได้มาตรวจอาการของอี้หยิง อี้หยิงโมโหที่ซุนไป่หยางมายุ่งกับตน อันเชี่ยนเข้ามาพอดี อี้หยิงจึงถามถึงจดหมายปรากฏว่ายังนำจดหมายออกไปไม่ได้ อี้หยิงจึงต่อว่านาง แต่ซุนไป่หยางเข้ามาห้ามไว้ และว่าอี้หยิง อี้หยิงจึงไล่ทุกคนออกไป อันเชี่ยนจึงอธิบายเรื่องของอี้หยิงให้ซุนไป่หยางฟังว่าที่นางทำไปทั้งหมดก็เพื่อแม่ของนางเอง
เอ่อฉุนไม่สบายใจเรื่องที่ถวายตัววันพรุ่งนี้นางจึงปรึกษาสนมฟุ เอ่อฉุนบอกว่านางยังมีคนที่นางตัดไม่ขาด นางอยากหาโอกาสถามคนคนนั้นดูว่าคนคนนั้นรักตนหรือไม่
ในคืนวันไหว้พระจันทร์ เหล่าสาวงามและสนมหยูได้สังสรรค์ร่วมกัน สนมหยูได้ถามเอ่อฉุนว่าดูไม่ค่อยสบาย นางตอบว่าเป็นเพราะเหล้าจึงทำให้วิงเวียนจึงขอตัวกลับ แต่ความจริงนางต้องการไปหาซุนไป่หยาง ขณะนั้นซุนไป่หยางได้มาหาอี้หยิงเพื่อขอโทษพร้อมทั้งนำรูปภาพที่แม่ของอี้หยิงฝากมาให้ ซุนไป่หยางบอกว่าตนได้นำจดหมายของนางไปให้แม่เรียบร้อยแล้ว และแม่ของนางได้ฝากรูปวาดกลับมาให้ พร้อมกันนั้นยังได้ซ่อมกำไลหยกที่ตนทำพังไป ซุนไป่หยางได้ใส่กำไลนั้นให้แก่อี้หยิง แต่เหตุการณ์นั้นเอ่อฉุนมาเห็นเข้าพอดี
วันรุ่งขึ้นเมื่อซุนไป่หยางไปหอแพทย์พบว่าเอ่อฉุนได้นำให้คนนำโคมไฟมาคืน และคืนนั้นเอ่อฉุนได้ถวายตัวกับฮ่องเต้ เอ่อฉุนได้นอนคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาทั้งเรื่องของฉีกงกง และซุนไป่หยาง จนฮ่องเต้เสด็จเข้ามา
ฮองเฮากำลังแต่งตัวเตรียมรับเสด็จฮ่องเต้ที่กำลังจะกลับมา แต่ขันทีคนสนิทขิงฮ่องเต้มาบอกว่าฮ่องเต้เหน็ดเหนื่อยต้องการพักผ่อน จึงไม่ต้องให้ใครเข้าถวายพระพร
ฮ่องเต้ได้มาเยี่ยมสนมหยูที่ตำหนัก และได้ชื่นชมองค์หญิงน้อยทำให้สนมหยูดีใจ สนมหยูชวนฮ่องเต้อยู่ทานข้าวด้วย แต่ฮ่องเต้ปัดว่าสนมหยูเพิ่งจะคลอดลูกควรพักผ่อน และฮ่องเต้เพิ่งกลับมา มีงานต้องสะสางเยอะ
เมื่อฮ่องเต้กลับที่พัก ได้มีการเลือกป้ายของสนมอื่นเข้าวังเพื่อปรนนิบัติ อี้หยิงอยากรู้อยากเห็นจึงปีนกำแพงวังดู แต่พลาดตกลงมา พอดีเอ่อฉุนมาช่วยทัน อี้หยิงกล่าวว่านางอยากเห็นหน้าฮ่องเต้ แต่เอ่อฉุนบอกว่าเราสนใจว่าฮ่องเต้เป็นไง เปลี่ยนมาสนใจว่าฮ่องเต้รู้ไหมว่าเราเป็นใครดีกว่า อี้หยิงเป็นห่วงสุขภาพของเอ่อฉุนที่ยังเป็นหวัดไม่หายให้รักษาตัวให้ดี
ที่หอหยูอี้ซึ่งใช้วาดรูปได้มีการวาดรูปสาวงามที่เข้าวังเพื่อให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตถ์ หลังจากอี้หยิงวาดรูปเสร็จ ได้ให้ยืมปิ่นผมพร้อมทั้งเงินเพื่อเป็นค่ากำนัลแด่คนวาดภาพ เหยี่ยนฉี กับซู่หลิงจึงเข้ามาเหน็บแนม อี้หยิงไม่สนใจ พร้อมทั้งบอกให้เอ่อฉุนรีบเข้าไปเพราะได้เวลาแล้ว
สนมหยูได้พิจารณารูปวาดของหญิงสาวทั้งหมด เป่าฉานนางกำนัลของสนมหยูได้แสดงความเห็นว่าฝีมือจิตรกรที่ตำหนักหยูอี้มีฝีมือหลากหลาย ทำให้ภาพที่ออกมามีหลากหลาย สนมหยูให้ความเห็นว่าฝีมือดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงินที่เป็นของกำนัล เป่าฉานจึงนำรูปของอี้หยิงซึ่งออกมาได้อัปลักษณ์ผิดกับตัวจริง พร้อมทั้งกล่าวว่าอี้หยิงใช้เงินเก่งสุดเหตุใดภาพจึงออกมาเป็นเช่นนี้ สนมหยูกล่าวว่าบางทีเด่นไปสวยไปก็เป็นที่เดือดร้อน เป่าฉานจึงเข้าใจว่าสาวงามคนอื่นๆ คงรวบรวมเงินกันเพื่อให้จิตรกรวาดภาพของนางออกมาไม่สวยเช่นนี้ สนมหยูให้นำภาพทั้งหมดส่งคืนหอหยูอี้เพื่อให้ฝ่าบาททอดพระเนตถ์ พร้อมทั้งให้เอ้อกงกงว่านางจะให้สาวงามเข้าร่วมงานบวงสรวงในวันมะรืน เพราะนางต้องการให้เหล่าสาวงามชิงดีชิงเด่นกัน
เมื่อภาพได้ส่งคืนหอหยูอี้เสี่ยวลู่จื่อได้เป็นคนนำภาพไปเก็บแต่เกิดอุบัติเหตุทำให้ภาพของอี้หยิงเสียหาย เสี่ยวลู่จื่อจึงนำมาให้อันเชี่ยนดู อันเชี่ยนจึงเสนอให้เสี่ยวลู่จื่อวาดภาพอี้หยิงใหม่โดยนงจะเป็นคนบอกว่าอี้หยิงมีลักษณะอย่างไร
เอ่อฉุน เหยียนฉี และซู่หลิง อ่านจดหมายที่ฉีกงกงเขียนมาว่าไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมทั้งให้ระมัดระวังตัว ซู่หลิงคิดว่าฉีกงกงกำลังลำบาก ระหว่างที่นางกำลังปรึกษากัน ฮ่องเต้ก็กำลังดูรูปสาวงามที่ส่งมาจากหอหยูอี้ และได้สนใจภาพของอี้หยิงมาก เหยียนฉีเป็นกังวลว่าถ้าฮ่องเต้ได้เจออี้หยิง พวกนางคงขัดขวางลำบาก แต่ซู่หลิงบอกว่าดังนั้นเราต้องไม่ให้อี้หยิงได้เข้าเฝ้า
วันรุ่งขึ้นนางกำนัลได้กำลังนำน้ำมาให้อี้หยิงล้างหน้า แต่ระหว่างทางซุ่หลิงได้ตะโกนว่ามีหนูอยู่ในห้องนาง นางกำนัลจึงวางน้ำไว้ด้านนอกและไปช่วยดู ระหว่างนั้นเหยียนฉีได้นำยามาใส่ในน้ำของอี้หยิง เมื่อนางกำนัลกลับมาได้นำน้ำดังกล่าวไปให้อี้หยิงล้างหน้า หลังจากอี้หยิงล้างหน้าก็เป็นลมไปและมีไข้ทำให้ไม่สามารถไปงานบวงสรวงได้ แต่เอ่อฉุนได้อาสาของอยู่ดูแลอี้หยิงเองเพราะยังไงนางก็ปวดอยู่เหมือนกัน
ในงานบวงสรวง ฮ่องเต้ถามถึงอี้หยิงแต่เอ้อกงกงทูลว่านางไม่สบายไม่สามารถมาได้ ฮ่องเต้เห็นเหยียนฉีก็ถูกใจ ระหว่างทางกลับฮ่องเต้ทรงถามชื่อนางกับตัวนางเอง ทำให้ซู่หลิงเกิดความริษยา
หลังจากอี้หยิงฟื้น ได้กล่าวตัดพ้อกับเอ่อฉุนพร้อมทั้งเสียดายที่นางไม่ได้ไป กงกงได้นำยามาให้อี้หยิง เอ่อฉุนจึงไปนำน้ำมาให้อี้หยิงทานพร้อมยา ระหว่างนั้นนางได้บี้ยานั้นจนแหลกและไม่ได้กิน
สนมหยูได้พระราชทานพัดให้แก่สาวงาม และได้พระราชทานพัดที่สวยงามเป็นพิเศษแก่เหยียนฉี ยิ่งเพิ่มความริษยาของสาวงามกับเหยียนฉี
เหยี่ยนฉีได้นำของว่างซึ่งพิเสษกว่าของคนอื่นมาให้เอ่อฉุนกับซู่หลิงดู ซุ่หลิงบอกว่าเป็นเพราะคนรับใช้นั้นเห็นว่าสนมหยูทำดีกับเหยียนฉีนั่นเอง พวกนางกังวลว่าตอนนี้อี้หยิงมีผื่นแดงขึ้นตามตัวแต่เมื่อหมอหลวงรักษาอีกไม่นานก็คงหาย ซู่หลิงจึงว่าดังนั้นเราต้องทำให้นางไม่หาย โดยการสลีบเปลี่ยนยาระหว่างเอ่อฉุนกับอี้หยิง
เอ่อฉุนได้นำมาบ็วยหวานมาให้อี้หยิงทานแก้ขมจากยา พร้อมทั้งคะยั้ยคะยอให้อี้หยิงกินยา พร้อมทั้งบอกว่าถ้าอี้หยิงกินยา นางจะไปเอาพัดมาพัดให้หายคัน เมื่อเอ่อฉุนกลับเข้ามาอีกที ยาก็หมดแล้ว อี้หยิงบอกว่านางกินแล้ว เอ่อฉุนจึงนำพัดมาพัดให้อี้หยิง
สนมต่างๆในวังต้องการให้ซุนไป่หยางไปตรวจอาการเพราะคิดว่าเก่งกว่าหมอหลวงคนอื่น ไต้เท้าซุนถามถึงอาการของอี้หยิงกับเอ่อฉุนไม่หายซักที หมอที่รักษากล่าวว่าเค้าก็จัดยาตามอาการแล้วและแนะนำว่าให้ซุนไป่หยางรักษาอาจได้ผลก็ได้
เมื่อซุนไป่หยางมาตรวจอาการของอี้หยิงทำให้ทราบว่ายาที่อี้หยิงทานนั้นไม่ใช่ยาที่ถูกต้อง เพราะยาที่นางกินต้องมีรสเปรี้ยวแต่นางบอกว่ายามีรสขม ซุนไป่หยางได้ลองสืบจนพบว่ายาของเอ่อฉุนมีรสขม ทำให้ซุนไป่หยางเชื่อว่าเอ่อฉุนมีส่วนในการเปลี่ยนยาครั้งนี้
ระหว่างที่ขันทีกำลังสลับเปลี่ยนยาซุนไป่หยางได้มาเจอจึงสอบสวน และได้นำยาที่ถูกต้องมาให้เอ่อฉุนทาน พร้อมทั้งให้เอ่อฉุนรับประทานต่อหน้าทันที เมื่อเอ่อฉุนทานเสร็จ ซุนไป่หยางได้ถามถึงยา ทำให้รู้ว่าเอ่อฉุนไม่เคยทานยาที่นำมาให้เลย
เอ่อฉุนได้นำเรื่องที่นางสงสัยว่าซุนไป่หยางรู้ว่านางมีส่วนในการเปลี่ยนยากับเหยียนฉีและซู่หลิง ซู่หลิงจึงจะให้ต้าเหนียงลองสืบดู ระหว่างนั้นได้มีนางกำนัลมาบอกว่สนมหยูขอเชิญเหยียนฉีไปสังสรรค์ด้วยกัน สนมหยูได้ประทานเสื้อผ้าที่สวยงามของนางให้แก่เหยียนฉี
สนมหยูได้สอบถามเรื่องอาการของอี้หยิงกับซุนไป่หยางว่าเป็นธรรมชาติหรือเป็นการกลั่นแกล้ง ซุนไป่หยางได้รายงานว่าเป็นธรรมชาติมิใช่การกลั่นแกล้ง
ซู่หลิงได้นัดพบกับขันทีที่เปลี่ยนยา พร้อมทั้งนางตัดสินใจว่าควรให้อยู่นิ่งๆก่อน เอ่อฉุนได้ตามมาเพราะเป็นห่วง ซู่หลิงบอกว่าเดี๋ยวนางจะบอกเหยียนฉีเองว่าไม่ให้เคลื่อนไหวใดๆ
เมื่อเหยียนฉีกลับมาได้นำของมาอวดซู๋หลิง ซู่หลิงแสดงความกังวลว่าซุนไป่หยางรู้แล้วว่ามีการเปลี่ยนยา แต่ขันทีที่เปลี่ยนยายังไม่รู้ตัว ดังนั้นพรุ่งนี้คงมีการเปลี่ยนยาอีก ซึ่งซุนไป่หยางคงจะได้หลักฐานคราวนี้ เหยียนฉีจึงเสนอตัวว่านางจะเป็นคนเปลี่ยนยากลับมาเอง ระหว่างนั้นได้มีจดหมายสนเท่ห์มาให้เอ้อกงกงว่ามีการเปลี่ยนยากันเพื่อให้เอ้อกงกงไปจับ
วันรุ่งขึ้น ซู๋หลิงได้ไปหาเอ่อฉุน พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่านางได้ให้เหยียนฉีเป็นแพะรับบาปในเรื่องการเปลี่ยนยา เพราะต้องการให้เรื่องนี้หยุดการสืบสวน เอ่อฉุนตกใจแต่ไปช่วยเหยียนฉีไม่ทัน เพราะนางได้ถูกเอ้อกงกงจับกุมระหว่างมีกำลังสลับเปลี่ยนยา เอ่อฉุนโกรธซู่หลิงมากหาว่านางอิจฉาเหยียนฉีจึงทำเรื่องนี้
เอ้อกงกงนำเรื่องนี้ไปรายงานสนมหยู เอ้อกงกงคิดว่าคนที่นำจดหมายมาให้คงต้องการพึงบารมีของสนมหยู สนมหยูเห็นว่าคนผู้นี้ฉลาดเกินไป ไม่ควรนำมาไว้ข้างตัวเพราะอันตราย
อี้หยิงเอาเรื่องที่เหยียนฉีถูกจับมาเล่าให้เอ่อฉุนฟัง เอ่อฉุนร้องไห้ อี้หยิงพยายามปลอบ แต่ไม่รู้ว่าเอ่อฉุนร้องเรื่องอะไร ระหว่างนั้นซุนไป่หยางได้มาตรวจอาการ
เมื่อซุนไป่หยางได้ไปตรวจเอ่อฉุน พร้อมทั้งพูดเรื่องเหยียนฉีถูกจับเพราะคิดว่าเอ่อฉุนใส่ความเหยียนฉีเพื่อให้ถูกจับ ซุนไป่หยางเตือนเอ่อฉุนว่าไม่ควรใช้เลห์เหลี่ยมเพื่อทำร้ายคนอื่น
เมื่อซุนไป่หยางไปตรวจอี้หยิง อี้หยิงได้นำของกำนัลมาให้ตอบแทนที่ซุนไป่หยางพบเห็นการสลับเปลี่ยนยา ทำให้นางรู้ว่า ซุนไป่หยางรู้ว่านางไม่ได้ทานยาเหล่านั้น แสดงให้เห็นว่าความจริงอี้หยิงรู้ว่ามีคนเปลี่ยนยา และต้องการให้ซุนไป่หยางรู้เพื่อนำไปรายงานคนอื่น และบอกให้นางไปขอบใจเอ้อกงกงมากกว่า เพราะเอ้กกงกงเป็นคนจับคนร้ายได้ ไม่ใช่ตน และไม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรต้อหน้าตนด้วย
อันเชี่ยนได้เตรียมตัวเจอย่า ซึ่งในวังมีกฎว่านางกำนัลสามารถพบญาติได้ปีละสองครั้ง แต่ปรากฏว่าย่าของนางไม่ได้มาตามนัดทำให้นางเป็นห่วง ระหว่างนั้นนางได้เห็นญาติของซู่ยิงได้มาพบซู่ยิงทำให้เพิ่งทราบว่าซู่ยิงตายแล้ว สร้างความเสียใจแก่ญาติของซู่ยิงมาก
ขงอู่โดนซ้อมเพราะมาถามไต้เท้าเฉาเรื่องเงินที่นำมาให้เค้าแลกกับตำแหน่งหัวหน้า แต่ไต้เท้าเฉากับโกงขงอู่ เฉินส่วงมาปลอบทำให้รู้ว่าขงอู่ขโมยเงินของตนไปด้วยเพื่อเป็นสินบนแก่ไต้เท้าเฉา เฉินส่วงกับขงอู่ทะเลาะกัน
อันเชี่ยนมาที่ตำหนักที่กำลังซ่อมแซม เพื่อนำของเซ่นไหว้มาเซ่นซู่ยิง ขงอู่มาเจออันเชี่ยนจึงปรับทุกข์เรื่องซู่ยิงว่านางไม่สามารถช่วยซู่ยิงได้ และนางต้องก้มหน้ารับชะตากรรม ขงอู่ปฏิเสธและได้นำขลุ่ยของซู่ยิงซ่อนไว้รวมกับป้ายบูชาของบรรพชนฮ่องเต้เพื่อให้เจ้านายกราบไหว้ซู่ยิง
ระหว่างที่ฮองเฮากำลังชื่นชมองค์หยิงน้อย สนมหยูได้มาถวายพระพรฮองเฮา ฮองเฮาได้กล่าวชมองค์หญิงน้อยให้สนมหยูฟัง ฮองเฮาได้นำของบำรุงผิวให้สนมหยู และฮองเฮาได้กล่าวถามเรื่องอี้หยิงแก่สนมหยู
ที่ตำหนักที่อี้หยิงอยู่อันเชี่ยนได้นำยามาให้อี้หยิง อี้หยิงได้กล่าวขอโทษอันเชี่ยนเรื่องที่อันเชี่ยนเคยกล่าวเตือนให้ระวังคนในวังให้ดี อี้หยิงได้ถามถึงเหยียนฉี อันเชี่ยนบอกว่าเหยียนฉีถูกเนรเทศไปเป็นสาวใช้ อี้หยิงได้นำเงินมาให้อันเชี่ยนให้ฝากให้ผู้ที่คุมตัวเหยียนฉี เพื่อให้นางเดินทางอย่างสบาย และอี้หยิงได้วานให้อันเชี่ยนหาของไปให้ซุนไป่หยาง แต่อันเชี่ยนบอกว่าซุนไป่หยางที่ของต่างๆมากมาย อี้หยิงไม่จำเป็นต้องนำของอะไไปให้เค้า
อี้หยิงได้นำขวดยานัตถ์เป็นของขวัญแก่ซุนไป่หยาง แต่ไต้เท้าซนรู้จึงนำของขวัญนั้นไปให้ซุนไป่หยางพร้อมทั้งต่อว่า ซุนไป่หยางนำของขวัญขิ้นนั้นมาคืนแก่อี้หยิง อี้หยิงกล่าวว่าซุนไป่หยางไม่เห็นของขวัญของนางในสายตา ซุนไป่หยางต้องการให้จบเรื่องจึงรับว่าของไม่ได้อยู่ในสายตา อี้หยิงบอกว่าซุนไป่หยางกำลังข่มขู่นางเพราะซุนไป่หยางรู้แต่ไม่รับน้ำใจนาง อี้หยิงเซไปเปิดเสื้อซุนไป่หยางและกล่าวว่านางเห็นไฝกลางอกของซุนไป่หยางนางบอกว่านางอาจบอกคนอื่นว่าซุนไป่หยางล่วงเกิน คิดอกุศลกับนางก็ได้ เฉพาะฉะนั้นห้ามไม่ให้ซุนไป่หยางบอกใคร ซุนไป่หยางรับปากเพราะตนไม่สนจเรื่องของคนอื่นอยู่แล้ว อี้หยิงบอกว่าถ้านางได้ดิบได้ดีนางจะไม่ลืมพระคุณเลย แต่ซุนไป่หยางปฏิเสธว่าในวังมีสาวงามมากมายนางอาจไม่มีวันนั้น อี้หยิงจึงเปิดเสื้อให้ดู เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่านางสวยกว่าหญิงอื่น เมื่อซุนไป่หยางเห็นจึงตกใจ อี้หยิงกล่าวว่ากิริยาของท่านก็แสดงให้เห็นว่านางในสายตาผู้ชายนั้นเป็นอย่างไร
อี้หยิงมาทำดีกับซู่หลิงแล้วเล่าให้ฟังว่าเหยียนฉีตายระหว่างเดินทาง ซู่หลิงตกใจ อี้หยิงกล่าวว่านางอยากเป็นเพื่อนกับซู่หลิง ซู่หลิงบอกว่าอี้หยิงไม่จำเป็นต้องทำดีกับนาง และอย่านำเรื่องเหยียนฉีตายไปเล่าให้เอ่อฉุนฟัง เพราะนางเป็นคนอ่อนไหวง่าย
ซุนไป่หยางนำยามาให้เอ่อฉุน เพราะเอ่อฉุนไม่ได้กินยา ซุนไป่หยางบอกว่านางไม่ควรทำเช่นนี้ เพราะนางเองก็เคยทำดีมาบ้าง และสมควรมีชีวิตอยู่ต่อไป และเหยียนฉีตายระหว่างเดินทางแล้ว ดังนั้นเอ่อฉุนควรมีชีวิตต่อไปถ้าละอายแก่ใจ
กลางดึกเอ่อฉุนกรี๊ดขึ้นมา สาวงามต่างๆพากันตกใจ ซู่หลิงแอบเข้าไปหาเอ่อฉุน เอ่อฉุนเล่าให้ฟังว่าเหยียนฉีได้มาหานาง และตอนนี้เหยียนฉีกำลังอยู่ข้างหลังซู่หลิง เหยียนฉีคงโกรธ เพราะนางตายระหว่างเดินทาง ซู่หลิงปฏิเสธว่าเหยียนฉียังไม่ตาย พร้อมทั้งให้เอ่อฉุนหลับให้สบาย ซู่หลิงกลับมาที่ห้อง อี้หยิงมาหาพร้อมทั้งนำกำยานมาให้เพื่อให้นอนหลับสบาย ซู่หลิงบอกให้นางกลับไปนอนเพราะพรุ่งนี้จะมีการคัดเลือกสาวงามเข้าวัง
ระหว่างที่ซู่หลิงกำลังจะออกไปข้างนอก เห็นห้องของเหยียนฉีเปิดไฟอยู่ นางจึงเปิดเข้าไปพบเอ่อฉุนอยู่ในห้องนั้น เอ่อฉุนเพ้อถึงเหยียนฉีที่ตายไปแล้วว่าสิ่งของต่างๆเหล่านี้เหยียนฉีรักมาก ซู่หลิงว่าเอ่อฉุนว่านางก็มีส่วนที่ทำให้เหยียนฉีเป็นเช่นนี้ ดังนั้นถ้าเอ่อฉุนจะเป็นอยย่างนี้ต่อไปก็ตามใจ
ซู่หลิงให้ขันทีนำจดหมายสนเท่ห์ไปให้เอ้อกงกงเพื่อใส่ร้ายอี้หยิงเกี่ยวกับพัดที่อี้หยิงถือ เมื่อซู่หลิงกลับมา นางกลับเห็นภาพหลอนต่างๆเกี่ยวกับเหยียนฉีในห้องของนาง นางคิดว่าเป็นเพราะกำยานที่อี้หยิงให้มา นางจึงทำลายกำยานนั้น
สนมหยูอ่านจดหมายสนเท่ห์ว่าอี้หยิงกำลังลบหลู่นาง แต่สนมหยูยังไม่ได้จัดการใดๆ
อี้หยิงมาหาซู่หลิง แต่ซู่หลิงต่อว่านางเรื่องกำยานที่ทำให้นางเห็นภาพหลอน อี้หยิงกล่าวว่านางไม่ได้ทำอะไร ซู่หลิงไม่เชื่อ
ระหว่างที่ฮ่องเต้ทรงคัดเลือกสาวงามนั้นอี้หยิงและเอ่อฉุนได้รับคัดเลือก ในขณะที่ซู่หลิงเกิดอาการเพ้อ คลุ้มคลั่งต่อหน้าพระพักตร์ ทำให้โดนจับกุม เอ่อฉุนแอบคิดถึงเหยียนฉี และกล่าวกับตัวเองว่านางได้แก้แค้นให้เหยียนฉีแล้ว
อี้หยิงได้ถูกสนมหยูเรียกไปพบและขอดูพัดของนาง ซึ่งมีข้อความลบหลู่นางอยู่บนพัด อี้หยิงกล่าวว่านางไม่รู้เรื่องเพราะพัดของนางไม่ได้มีคำเหล่านี้ นางไม่รู้ว่าคำเหล่านี้มาได้อย่างไร และขอให้สนมหยูไว้ชีวิตนางด้วย สนมหยูจึงทิ้งพัดไป และประทานพัดอันใหม่ให้แก่อี้หยิง และกล่าวว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอี้หยิงดังนั้นนางจะไม่เอาเรื่อง และบอกว่านางชอบคนอย่างอี้หยิง
ขันทีคนสนิทของสนมหยูและเป่าฉานสงสัยจึงถามว่าเหตุใดต้องทำดีกับอี้หยิง สนมหยูตอบว่าเพราะนางกำลังแก่ตัว สักวันฮ่องเต้ก็ต้องเบื่อ ดังนั้นสู้เก็บหาสาวๆที่ฮ่องเต้กำลังหลงใหลไว้ใช้แทนนางไม่ดีกว่าหรือ และอี้หยิงคนนี้สวยแต่โง่ ดังนั้นถ้านางสามารถควบคุมอี้หยิงได้ก็จะเป็นผลดี
มารดาของอี้หยิงได้มาเยี่ยมอี้หยิงพร้อมทั้งได้เป็นห่วงและนำเงินก้อนสุดท้ายมาให้อี้หยิงสำหรับใช้ในวัง นางให้สัญญาว่าจะใช้เงินก้อนนี้ให้เกิดประโยชน์ ขันทีได้นำคำสั่งของสนมหยูว่าอนุญาตให้อี้หยิงและมารดาไปวาดภาพที่หอหยูอี้
เหล่าสาวงามที่ถูกคัดเลือกได้พากันอิจฉาอี้หยิงที่ได้รับการปรนนิบัติอย่างดีจากสนมหยู ระหว่างนั้นฉีกงกงได้เข้ามาคำนับและทักทายเหล่าสาวๆ ทำให้เอ่อฉุนรู้ว่าฉีกงกงปลอดภัย เอ่อฉุนได้แอบนัดเจอฉีกงกงและสารภาพว่านางเป็นคนทำให้ซู่หลิงเป็นเช่นนี้ เพราะนางต้องการแก้แค้นให้เหยียนฉี ฉีกงกงไม่ได้ตำหนิอะไร และอย่าให้เอ่อฉุนคิดมากเรื่องนี้ และถ้าจะโทษใครก็ควรจะโทษตนเองมากกว่า
เมื่อฉีกงกงกลับมาบ้านและต่อว่าต้าเหนียงที่ไม่ได้ดูแลทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากเหล่านี้ขึ้น ต้าเหนียงขอร้องว่าอย่าต่อว่าเอ่อฉุนเลย ฉีกงกงกล่าวว่าตอนนี้เค้าเหลือเพียงเอ่อฉุนดังนั้นสู้ชมดีกว่าว่า ต้าเหนียงถามถึงเอ่อฉุนว่าเป็นอย่างไร เพราะกังวลว่าเอ่อฉุนจะติดยาเสพติดเนื่องจากนางยังคงขอยาเหล่านั้นจากขันทีคนสนิทของฉีกงกง เพราะนางยังคงไม่ให้อภัยตัวนางเอง
เฉินส่วงเล่นการพนันแต่ขงอู่ขัดขวางจึงทะเลาะกัน ระหว่างนั้นไต้เท้าเฉาเดินทางมาเล่นงานขงอู่ว่ามีคนปล่อยข่าวเกี่ยวกับตนเรื่องการซื้อตำแหน่งและเกิดการทะเลาะกันขึ้น ไต้เท้าเฉาเห็นผ้าเช็ดหน้าไหมที่ขงอู่มีจึงบอกว่าขงอู่ขโมยมาจากในวัง แต่ขงอู่ปฏิเสธจึงโดนลงโทษ ระหว่างนั้นไต้เท้าซุนผ่านมาจึงห้ามไว้และสอบถาม เฉินส่วงบอกว่าผ้าเช็ดหน้านี้ขงอู่เก็บได้ ไต้เท้าเฉาบอกว่าไม่ลงโทษก็ได้ แต่ต้องออกจากวังไป ไต้เท้าซุนช่วยรักษาทั้งสองคน และอ่านข้อความบนผ้าเช็ดหน้าพร้อมทั้งกล่าวว่าคนที่ทำผ้าเช็ดหน้านี้น่าสงสาร
ขงอู่ถามถึงกลอนที่เขียนในผ้าเช็ดหน้า ไต้เท้าซุนจึงเล่าว่า กลอนนี้ผู้ปักต้องการที่จะให้ใครสักคนมาพาตัวนางออกไป ไต้เท้าซุนได้ถามถึงที่มาของผ้าเช็ดหน้า ขงอู่จึงบอกว่ามาจากเสื้อเก่าๆที่ได้จากร้ายสือสอง โดยมีผ้าเช็ดหน้าซ่อนอยู่ภายใน เจ้าของร้านเล่าว่าอาจเป็นเสื้อของทหารที่ไปออกรบ ไต้เท้าซุนกลอนนี้เหมือนนางกำนัลที่คาดหวังว่ากลอนนี้จะไปอยู่ในมือผู้มีวาสนา แต่ขงอู่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ดังนั้นรับไปจากที่วุ่นวายนี้เสีย
ขงอู่นั่งคิดถึงที่ไต้เท้าซุนพูด คืนนั้นมีไฟไหม้ที่ตำหนักที่กำลังซ่อมแซมและขงอู่ได้เข้าไปเพื่อชิงเอาป้ายบรรพบุรุษของฮ่องเต้ออกมา ดังนั้นฮ่องเต้จึงประทานตำแหน่งให้เป็นทหารยามรักษาประตู ขงอู่กับเฉินส่วงจึงไม่ได้ถูกไล่ออกจากวัง ขงอู่ต้องการให้ซุนไป่หยางมาปรนนิบัติแทนที่จะเป็นเด็ก ขงอู่เหน็บแนมซุนไป่หยางว่าในที่สุดเค้าก็ได้ก้าวมาถึงจุดนี้
เฉินส่วงมาเยี่ยมขงอู่และไม่เข้าใจว่าทำไมขงอู่ต้องเสี่ยงชีวิตด้วย ขงอู่จึงเล่าว่าเขาเป็นคนทำให้เกิดขึ้นเอง เฉินส่วงตกใจมาก ขงอู่บอกอย่าให้เฉินส่วงไปบอกใคร
ซุนไป่หยางกลับมาที่หอนางโลม และพบว่าฉีกงกง ฉีกงกงได้ไว้วานให้รักษาเอ่อฉุนจากการติดยา และขู่ว่าถ้าซุนไป่หยางไม่ทำตาม ฉีกงกงก็จะไปทูลเรื่องฉ้อราษฏร์ของไต้เท้าซุน ซุนไป่หยางจึงต้องรับปาก
ซุนไป่หยางไปตรวจอาการของเอ่อฉุน และเกิดมีปากเสียงกัน ซุนไป่หยางพูดถึงยาที่เอ่อฉุนแอบกิน เอ่อฉุนโมโหและทำให้เกิดอาการหอบ ทำให้ซุนไป่หยางรู้ว่าเอ่อฉุนกินยานั้นเพื่อระงับอาการหอบ เอ่อฉุนหมดสติไป ทำให้ซุนไป่หยางต้องล่วงเกินรักษา แต่ระหว่างนั้นอี้หยิงได้มาหา แต่ซุนไป่หยางบอกว่าเอ่อฉุนไม่สบายอี้หยิงจึงออกไป เอ่อฉุนโมโหที่ซุนไป่หยางล่วงเกินแต่ซุนไป่หยางบอกว่าฉีกงกงให้เค้ามาช่วยดังนั้นควรให้ความร่วมมือด้วย
ซุนไป่หยางเจออี้หยิงระหว่างทาง อี้หยิงเข้าใจว่าซุนไป่หยางมีสัมพันธ์ชู้สาวกับเอ่อฉุน และขู่ว่าจะนำเรื่องนี้ไปบอกสนมหยู ดังนั้นอี้หยิงไม่ต้องการให้ซุนไป่หยางพูดเรื่องของนาง และนางก็จะไม่พูดเรื่องของซุนไป่หยางเช่นกัน อี้หยิงยังขอให้ซุนไป่หยางหายาเพื่อที่จะทำให้ประจำเดือนมาเร็วกว่ากำหนดด้วยเพื่อที่นางจะได้ตามฮ่องเต้ออกประพาส
ไต้เท้าซุนกำลังตรวจสอบเรื่องยาในหอหลวง และพบเด็กกำลังนำยาบางอย่างมาจึงตรวจสอบ เด็กอ้ำอึ้ง พอดีฉีกงกงเข้ามาบอกว่าเป็นยาของตน ซุนไป่หยยางเข้ามาพอดีจึงเข้ามาช่วยพูดอีกคน และให้เด็กนำยาออกไป
ซุนไป่หยางและฉีกงกงคุยกัน ฉีกงกงกลัวว่าซุนไป่หยางจะทำให้เอ่อฉุนลำบากถ้าทำอะไรผิดพลาด ฉีกงกงนำพ่อของซุนไป่หยางมาขู่ และให้ซุนไป่หยางทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อย่าให้เดือดร้อนมาถึงเอ่อฉุนได้
ซุนไป่หยางนำยาที่อี้หยิงอยากได้มาให้ แต่เตือนว่าไม่มีใครรู้กำหนดที่แน่นอนได้ ฮ่องเต้อาจเปลี่ยนใจไปเร็วขึ้นก็ได้ อีกทั้งยานี้อาจมีผลข้างเคียง ถ้าเกิดอะไรขึ้นควรเรียกตนทันที อี้หยิงบอกไม่ให้ซุนไป่หยางยุ่งเรื่องของนาง
ซุนไป่หยางรักษาเอ่อฉุนจนหายดีแล้ว ระหว่างรักษาเอ่อฉุนเริ่มหลงรักซุนไป่หยาง เมื่อรักษาเสร็จนางจึงน้อยใจที่นางจะไม่ได้พบซุนไป่หยางแล้ว ซุนไป่หยางได้เตือนเรื่องการดูแลรักษาตัวเองก่อนกลับไป นางเข้าใจว่าที่ซุนไป่หยางทำไปเพราะ
เอ้อกงกงได้พาขงอู่และเฉินส่วงไปทำงาน โดยทั้งสองมีหน้าที่ให้อาหารแก่เทพกา สร้างความไม่พอใจแก่เฉินส่วง แต่ขงอู่ห้ามไว้ ทำให้ทั้งสองคนทราบว่าไตต้เท้าเฉาแท้จริงเป็นหลานของเอ้อกงกงนั่นเอง ขงอู่ปีนขึ้นไปให้อาหารแก่อีกาบนเสา และได้ยินเสียงขลุ่ยที่อันเชี่ยนเป่าเพราะคิดถึงท่านย่า พอดีเห็นนางกำนัลเดินผ่านมาจึงสอบถามเรื่องย่า นางตอบว่ายังไม่ได้ข่าว และทำให้อันเชี่ยนทราบว่าอี้หยิงรอบเดือนมาเร็วกว่ากำหนดและปวดท้องมาก อันเชี่ยนไปหาอี้หยิงเพื่อดูแล ทำให้อี้หยิงรู้ว่าฮ่องเต้เสด็จประพาสก่อนกำหนด อี้หยิงโกรธมากที่ซุนไป่หยางไม่บอกให้รู้ อี้หยิงตำหนิซุนไป่หยางที่ไม่บอกให้นางรู้ว่าฮ่องเต้ประพาสก่อนกำหนด อี้หยิงขู่เรื่องเอ่อฉุน แต่ซุนไป่หยางไม่กลัว และถ้านางจะฟ้องจริงซุนไป่หยางก็จะไปร้องขอความเป็นธรรมจากสนมหยูเช่นกัน อีกอย่างต่อให้อี้หยิงไม่มีรอบเดือนก็ใช่ว่าสนมหยูจะอนุญาตให้นางตามเสด็จฮ่องเต้ประพาสได้ และสนมหยูชอบคนสงบเสงี่ยม ดังนั้นซุนไป่หยางจึงแนะนำให้นางอยู่เฉยๆดีกว่า
เอ่อฉุนนัดพบฉีกงกงและปรึกษาเรื่องอี้หยิงที่กำลังเป็นที่โปรดปรานของสนมหยู ฉีกงกงถามถึงอาการของเอ่อฉุนเอง นางรายงานว่าอาการของนางหายดีแล้ว ฉีกงกงบอกเอ่อฉุนไม่ต้องรีบร้อนเรื่องอี้หยิง เพราะสนมหยูนั้นจะเชื่อใจใครต้องใช้เวลา และเตือนไม่ให้เอ่อฉุนใจร้อน
ระหว่างทางที่เอ่อฉุนกลับเกิดอาการหอบ และซุนไป่หยางมาเจอจึงช่วยนำมาส่ง เอ่อฉุนบอกไม่ต้องห่วงนาบเพาระกลัวฉีกงกงจะว่า ยังไงนางก็จะไม่อาการกำเริบต่อหน้าเขา เอ่อฉุนได้ลืมเซียมซีที่ต้าเหนียงได้ฝากให้นาง ทำให้ซุนไป่หยางได้อ่านจึงเกิดความสงสัย วันรุ่งขึ้น ซุนไป่หยางไปหาฉีกงกงเพื่อให้ฉีกงกงเตือนนางอย่าให้ออกไปข้างนอกตอนดึกๆ เพราะไม่เป็นผงดีต่อนาง ต้าเหนียงได้ฝากให้ซุนไป่หยางดูแลเอ่อฉุนด้วย เพราะนางพลัดพรากจากพี่สาวตั้งแต่เด็ก เรื่องที่เกิดขึ้นกับเหยียนฉี และซู่หลิงทำให้นางเสียใจมาก แต่ซุนไป่หยางไม่เชื่อว่าต้าเหนียงห่วงเอ่อฉุนจริงๆ และขอตัวกลับ
ซุนไป่หยางสั่งให้เด็กเตรียมยาให้จำนวนหนึ่ง ซึ่งซุนไป่หยางได้นำยาเหล่านั้นไปให้สนมฟุ สนมฟุเป็นสนมที่เข้ามาแต่ไม่ได้เป็นโปรดปรานของฮ่องเต้เพราะเป็นโรคหัวใจ ซุนไป่หยางเป็นห่วงอาการของสนมฟุจึงมาเยี่ยมบ่อยๆ สนมฟุ ซุนไป่หยางได้นำกระดาษสีที่ฉีกงกงฝากมาให้ สนมฟุขอบใจฉีกงกงมาก เพราะนางเคยเป็นสาวงามที่ฉีกงกงส่งมาเมื่อครั้งก่อน
เสี่ยวลู่จื่อได้ข่าวย่าของอันเชี่ยนจึงมาบอกว่าตอนนี้ย่าของอันเชี่ยนไม่สบายระหว่างทางต้องการเงินเพื่อไปรักษาอันเชี่ยนไม่มีเงินมากขนาดนั้น จึงจะแอบนำของในวังไปขาย เสี่ยวลู่จื่ออาสา แต่อันเชี่ยนปฏิเสธเพราะกลัวเสี่ยวลู่จื่อเดือดร้อน
ขงอู่และเฉินส่วงต้องเข้าเวรหน้าประตู มีขันทีคนสนิทของสนมหยูแอบนำของออกไปขายนอกวังขงอู่ตรวจเจอ แต่หัวหน้าของขงอู่มาช่วยพูดไว้ ทำให้กงกงคนนั้นนำของออกได้ ขงอู่จึงได้รู้ว่าหัวหน้าของเขามีส่วนรู้เห็นในการขนข้าวของในวังออกไป คืนนั้นหัวหน้าได้เลี้ยงลูกน้องและมีการแบ่งปันให้ขงอู่และเฉินส่วงด้วยแต่น้อย
เสี่ยวลู่จื่อแอบนำรูปไปฝากกงกงคนสนิทของสนมหยูนำออกไปขาย แต่กงกงได้คิดค่าสินบนแพง เสี่ยวลู่จื่อจึงคิดหนัก
ขงอู่ไปคุยกับกงกงคนนั้นเป็นการส่วนตัว เพื่อว่าตนสามารถนำของออกไปให้ได้มากกว่าหัวหน้าของตน และเสียค่าสินบนน้อยกว่า กงกงสนใจข้อเสนอของขงอู่จึงรับข้อเสนอนั้น ของที่ขนออกมานั้นมีผ้าปักผืนหนึ่งเป็นที่สนใจของขงอู่ ขงอู่จึงขอซื้อผ้าปักขิ้นนั้นเอง คืนนั้นขงอู่ได้นำผ้าเช็ดหน้าไหม และผ้าปักมาเทียบกัน และคิดว่าน่าจะเป็นคนคนเดียวกันที่ทำขึ้น
เสี่ยวลู่จื่อได้มาหาอันเชี่ยนเพื่อนำเย็นมาให้นางไปช่วยย่า นางเล่าว่านางขอเอ้อกงกงออกไปหาย่าแต่เอ้อกงกงไม่ให้ทำให้นางกลุ้มใจ เสี่ยวลู่จื่อจึงแซวว่าเพราะเหตุนี้จึงทำให้นางไปดุนางกำนัล อันเชี่ยนปฏิเสธพลางบอกว่านางต้องการสอนให้พวกนั้นรู้จักว่าสิ่งใดถูกหรือผิด โดยเฉพาะเรื่องของเจ้านาย เพราะถ้าผิดขึ้นมาพวกนางต้องรับโทษด้วยชีวิต เสี่ยวลู่จื่อจึงบอกว่าพวกนางยังเด็กต้องค่อยๆสอน พลางบอกว่าสำหรับย่าของอันเชี่ยนไว้รอให้หายดีค่อยหารถม้าและนำย่าอันเชี่ยนมาเมืองหลวงจะได้พบกัน
อันเชี่ยนมาหาสนมหยูเพื่อนำผ้าปักสำหรับใช้ในงานครบเดือนขององค์หญิงน้อย สนมหยูถามถึงเรื่องราเกี่ยวกับสาวงามที่เข้ามา อันเชี่ยนกล่าวว่าไม่มีเรื่องอะไร เพราะเรื่องเหล่านี้ได้จบสิ้นแล้ว และเหล่าสาวงามที่เหลือก็ปฏิบัติตนในกรอบทำให้นางไม่รู้ว่าเหล่าสาวงามนั้นคิดหรือวางแผนอะไร สนมหยูกล่าวว่าเอ้อกงกงรายงานเรื่องย่าของอันเชี่ยน และกล่าวว่าอันเชี่ยนมีน้ำใจกับย่า และเผื่อแผ่มายังเหล่าสาวงามด้วยจึงพยายามปกปิดให้ สนมหยูกล่าวว่าเรื่องของซู่หลิงคิดว่าไม่ใช่เพราะฟ้า แต่มีคนทำซึ่งไม่ควรปล่อยไว้ เพียงแต่อันเชี่ยนหาได้ว่าใครนางจะได้กลับไปหาย่าสมใจ
เฉินส่วงพูดเรื่องผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นกับขงอู่และให้ขงอู่ตัดใจเสีย เสี่ยวลู่จื่อมาหาขงอู่เพื่อให้ขงอู่นำของออกไปขายโดยเสียวลู่จื่อได้ขโมยของในหอหยูอี้ออกมา แต่อันเชี่ยนได้มาห้ามไว้ทำให้ขงอู่รู้ว่าผ้าปักผืนที่เขาซื้อเป็นของอันเชี่ยน อันเชี่ยนลากเสี่ยวลู่จื่ออกมาและห้ามเสี่ยวลู่จื่อไม่ให้ขโมยของออกมาขายเพราะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน แต่เสี่ยวลู่จื่อบอกว่าถ้าไม่ใช้วิธีนี้เมื่อไหร่จึงจะมีเงินพอนำไปให้ย่าเพื่อพานางเข้าเมืองหลวงดังนั้นขอให้อันเชี่ยนอย่ามาสนใจ อันเชี่ยนจึงเล่าเรื่องที่สนมหยูต้องการรู้เรื่องเกี่ยวกับซู่หลิง เพราะว่าอันเชี่ยนรู้ว่าใครเป็นคนทำ และถ้านางบอกสนมหยูนางก็จะได้ออกไปพบย่าแต่นางไม่บอกเพราะนางไม่อยากทรยศต่อสำนึกของตน เสี่ยวลู่จื่อจึงพยายามกล่อมให้นางบอก แต่นางยังคงยึดมั่นในคุณธรรมจึงไม่ยอมบอก
ขงอู่ เฉินส่วงและเสี่ยวลู่จื่อได้นัดพบกันนอกวัง เสี่ยวลู่จื่อได้ขอบคุณที่ขงอู่ยอมช่วย ขงอู่ถามเรื่องผ้าปักที่ตนซื้อไว้ว่าเป็นของอันเชี่ยนใช่หรือไม่ เสี่ยวลู่จื่อบอกว่าใช่ ขงอู่จึงหยิบอีกผืนที่ตนเก็บได้มาถาม เสี่ยวลู่จื่อบอกว่าผืนนี้ไม่เคยเห็น แต่ดูจากฝีมือการปักน่าจะเป็นของอันเชี่ยน เสี่ยวลู่จื่อเล่าเรื่องย่าของอันเชี่ยนห้ฟัง ขงอู่จึงอาสาช่วย
เสี่ยวลู่จื่อพาขงอู่มาหาอันเชี่ยน ซึ่งขงอู่มีทางที่จะช่วยอันเชี่ยนได้ อันเชี่ยนดีใจแต่นางไม่มีเงินให้ ขงอู่บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นไร อันเชี่ยนจึงขอบคุณ และขอโทษที่ไม่ได้ทักทายขงอู่ อันเชี่ยนถามถึงอาารเนื่องจากไฟไหม้ ขงอู่บอกว่าไม่เป็นไรแล้ว อันเชี่ยนบอกว่าขงอู่มีบุญวาสนาต้องได้เป็นใหญ่เป็นโต ขงอู่ถามถึงย่า อันเชี่ยนจึงบอกว่านางเป็นห่วง ขณะที่ขงอู่จะถามเรื่องผ้าปักนั้น ได้มีนางกำนัลรีบมาพบอันเชี่ยนทำให้นางต้องรีบกลับ
ซุนไป่หยางนำยาของฉีกงกงมาให้สนมฟุ สนมฟุถามถึงฉีกงกง ซุนไป่หยางบอกว่าท่านสบายดี สนมฟุได้ฝากถุงเท้าให้ฉีกงกง
ซุนไป่หยางกลับมาที่หอนางโลมพลางเล่าเรื่องของสนมฟุให้ฟัง ทำให้รู้ว่าความจริงนางนั้นเป็นที่หลงลืมของคนอื่นๆแล้ว เพียงแต่ซุนไป่หยางต้องการเก็บความฝันให้คงอยู่กับนางเท่านั้น โดยของที่ซุนไป่หยางนำไปให้สนมฟุนั้นความจริงเป็นของตนมิใช่เป็นของฉีกงกงฝากไปให้ หญิงสาวที่หอนางโลมมีความสงสัยว่าของทั้งหลายที่สนมฟุฝากซุนไป่หยางนำไปให้ฉีกงกงนั้นมิใช่แบบของคนแก่ ซุนไป่หยางจึงบอกว่านางคิดมาก พลางให้นางนำไปเก็บรวมกับของต่างๆที่สนมฟูเคยให้ตนนำไปฝากฉีกงกง
สนมหยูเรียกฉีกงกงมาพบ สนมหยูถามถึงเรื่องซู่หลิง ฉีกงกงกล่าวว่ามีคนเล่าว่าที่ซู่หลิงเป็นเช่นนี้เพราะถูกวิญญาณตามรังควาน แต่สนมหยูไม่เชื่อ ฉีกงกงจึงไม่มีความเห็น
เมื่อต้าเหนียงมาเยี่ยมซู่หลิงพบว่าซู่หลิงผูกคอตายและมีชายชุดดำอยู่ในนั้นบอกว่านี่เป็นความต้องการของฉีกงกง นางจึงนำเรื่องนี้ไปถามฉีกงกง ฉีกงกงบอกว่าตอนนี้สนมหยูกำลังระแคะระคายเรื่องของซู่หลิง และเรื่องนี้อาจสาวมาถึงตนเรื่องที่ฉีกงกงนำหญิงสาวชาวฮั่นเข้าวัง ฉะนั้นเราควรตัดไฟแต่ต้นลม
อันเชี่ยนถูกสนมหยูเรียกพบเพื่อสอบถามเรื่องในตำหนัก อันเชี่ยนบอกว่าอันเชี่ยนสืบไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ สนมหยูจึงให้นางปล่อยข่าวว่าการที่ซู่หลิงเป็นเช่นนี้เกี่ยวกับคนในคลังยา จึงให้นางปล่อยเรื่องนี้ให้เหล่าสาวงามรู้ พลางให้นางกลับไป กงกงคนสนิทมาเข้าเฝ้าและรายงานเรื่องที่คอยจับตาดูคนของที่คลังยารวมทั้งฉีกงกงด้วย สนมหยูจึงเล่าว่าเมื่อวานนางเรียกพบฉีกงกง และเมื่อคืนซู่หลิงก็ตาย ดังนั้นฉีกงกงต้องมีส่วนแน่ สนมหยูจึงให้เอ้อกงกงจับตาคนที่เข้าออกตำหนักของสาวงามให้ดี
อันเชี่ยนได้ให้นางกำนัลป่าวประกาศเรื่องที่สนมหยูบอกให้เหล่าสาวงามรู้ ซึงเอ่อฉุนได้ยินด้วยทำให้นางเป็นห่วงฉีกงกง นางจึงลอบออกจากตำหนักไปหาฉีกงกง แต่อันเชี่ยนมาห้ามพลางบอกว่านี่เป็นแผนล่อของสนมหยู อันเชี่ยนบอกว่าอย่างไรนางก็ต้องออกไปให้ได้เพราะนางเป็นห่วงฉีกงกง เอ่อฉุนจึงให้อันเชี่ยนช่วย โดยให้อันเชี่ยนแอบออกจากตำหนักทำให้ทหารที่คอยจับตามองนึกว่าอันเชี่ยนคือสาวงามที่แอบหนีออกจากวังจึงตามไป เอ่อฉุนจึงแอบหนีออกจากตำหนักโดยไม่มีทหารตาม แต่ระหว่างทางมีทหารกลุ่มหนึ่งเห็นจึงพยายามหยุดเอ่อฉุนจึงหนี แต่ซุนไป่หยางมาช่วยไว้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ซุนไป่หยางได้รับบาดเจ็บ สนมหยูเจ็บใจที่ไม่สามารถจับสาวงามที่สมคบกับฉีกงกงได้แต่เอ้อกงกงรายงานว่าผู้ร้ายนั้นได้รับบาดเจ็บ เป่าฉานนางกำนัลของสนมหยูจึงอาสาไปตรวจตำหนักของสาวงาม และเจอเอ่อฉุนกำลังอาบน้ำ เป่าฉานสงสัยว่านางเป็นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแต่เอ่อฉุนก็พิสูจน์ให้ดูว่านางไม่ได้เป็นอะไร เป่าฉานจึงกลับไป อันเชี่ยนทราบว่าซุนไป่หยางช่วยเอ่อฉุนไว้จนทำให้ได้รับบาดเจ็บจึงช่วยเหลือซุนไป่หยาง และหาวิธีให้ซุนไป่หยางแอบออกไปจากตำหนัก พร้อมทั้งได้เก็บผ้าที่เปื้อนเลือดของซุนไป่หยางไป เป่าฉานได้มาค้นห้องของอันเชี่ยนด้วยทำให้พบผ้าเปื้อนเลือดนั้น จึงนำม่ให้สนมหยู สนมหยูจึงเรียกอันเชี่ยนเข้าพบ
อันเชี่ยนกับขงอู่นัดพบกัน โดยขงอู่ได้เล่าเรื่องย่าของอันเชี่ยนให้ฟังว่าเป็นอย่างไร และตอนนี้อยู่ที่ไหน ตอนนี้กำลังหาเกี้ยวเพื่อนำย่ามาเมืองหลวง สำหรับเรื่องเงินนั้นอันเชี่ยนเกรงใจขงอู่นางจึงบอกว่านางจะหาเงินเอง
อันชี่ยนพบว่าผ้าเปื้อนเลือดที่นางเก็บไว้หายไป นางจึงทำร้ายให้ตนเป็นแผลก่อนเข้าพบสนมหยู และรายงานว่าผ้าเปื้อนเลือดนั้นเป็นของตนเอง เพราะว่าตนได้รับบาดเจ็บจากการทำงานฝีมือ สนมหยูเจ็บใจเพราะอันเชี่ยนพยายามปกป้องคนที่นางกำลังหาตัว นางจึงจะให้อันเชี่ยนแต่งงานกับเอ้อกงกง ซึ่งจะทำให้นางไม่ได้กลับไปอยู่กับย่าและต้องอยู่ในวังตลอดไป
เสี่ยวลู่จื่อมาถามเรื่องแต่งงานกับอันเชี่ยน เสี่ยวลู่จื่อพยายามพยามให้นางบอกเรื่องที่สนมหยูต้องการรู้ และเค้าจะไปบอกสนมหยูเอง เพื่อที่อันเชี่ยนจะได้ไม่ต้องแต่งงาน แต่อันเชี่ยนไม่ยอมบอก ระหว่างนั้นเอ้อกงกงได้มาหาและพูดเรื่องการวางตัวของอันเชี่ยนเพราะนางกำลังจะแต่งงานกับตนดังนั้นไม่ควรพูดคุยกับชายอื่น อันเชี่ยนพยายามปกป้องเสี่ยวลู่จื่อ เสี่ยวลู่จื่อจึงจากไป
อันเชี่ยนเจ๊บใจที่ตนต้องแต่งงานกับเอ้องกงจึงพยายามจะออกจากวัง แต่ขงอู่ห้ามไว้และช่วยพูดแก้ต่างให้ ขงอู่ต่อว่าอันเชี่ยนและบอกว่านางไม่สามารถออกพ้นประตูวังได้ ขงอู่บอกให้นางอดทนและตามใจสนมหยูจะได้ไม่ต้องเป็นอย่างนี้ อันเชี่ยนบอกว่านางทำไม่ได้ นางไม่สามารถทำร้ายคนอื่นได้ ระหว่างที่ทั้งคู่เถียงกันทำให้ได้รู้ว่าตลอดมาทั้งคู่ได้เป่าขลุ่ยประสานกันตลอดมา
เอ่อฉุนได้มานั่งเล่นและเห็นคนกำลังเล่นว่าวกัน นางเห็นว่าวตัวหนึ่งขาดและกำลังตกนางจึงตามไป และพบว่าว่าวตัวนั้นเป็นของสนมฟุ เอ่อฉุนและสนมฟูจึงพูดคุยและเล่นว่าวด้วยกัน ทำให้ทั้งสองสนิทกัน ระหว่างที่เล่นกันอยู่อาการของทั้งคู่เกิดกำเริบและซุนไป่หยางมาพบพอดี ซุนไป่หยางได้ดูแลสนมฟุ และให้เด็กรับใช้ดูแลเอ่อฉุนทำให้เอ่อฉุนน้อยใจ
ซุนไป่หยางได้ผสมยาให้สนมฟุที่ตำหนัก สนมฟุสงสารเอ่อฉุนที่นางยังเยาว์แต่ต้องมาเป็นโรคหอบเหมือนกับน้องสาวของตน ทำให้นางไม่สบายใจ ซุนไป่หยางจึงถามถึงน้องสาวของสนมฟุ สนมฟุจึงเล่าเรื่องของตนให้ซุนไป่หยางฟัง เรื่องที่พลัดหลงกับน้องระหว่างทาง และบอกว่าฉีกงกงเคยสืบหาให้แต่ไร้ข่าว และหวังว่าน้องของนางจะมีคนชุบเลี้ยงเหมือนนาง ซุนไป่หยางสงสัยเรื่องนี้ จึงได้มาหาต้าเหนียงและถามเรื่องสนมฟุกับเอ่อฉุนว่าเป็นพี่น้องกันหรือไม่ ต้าเหนียงจึงบอกว่าบางครั้งเรื่องบางเรื่องก็ควรจะปิดไว้ เพราะความจริงมันก็ให้โทษได้ และถามว่าถ้าใครรู้ว่าหญิงสาวที่เข้าวังมิใช่ชาวธงแต่เป็นชาวฮั่น อะไรจะเกิดขึ้น ซุนไป่หยางบอกว่าเป็นความผิดต้องถูกประหาร ต้าเหนียงบอกว่าอดีตของสนมฟุและเอ่อฉุนเป็นอย่างไรไม่มีใครรู้ และใครที่รื้อฟื้นอดีตของนางย่อมไม่มีผลดี จากนั้นต้าเหนียงจึงขอตัวกลับ
สนมฟุฝากถุงบุหงากับซุนไป่หยางเพื่อนำไปให้เอ่อฉุนบรรเทาอาการหอบ โดยขอร้องซุนไป่หยางไม่บอกว่านางเป็นคนทำให้เพราะกลัวเอ่อฉุนจะผิดใจกับสนมหยู เหตุที่นางทำดีกับเอ่อฉุนเพราะนางคิดว่าเอ่อฉุนมีลักษณะคล้ายกับน้องสาวของนางที่ต้องแยกจากกัน ซุนไป่หยางจึงถามว่านางคิดจะเล่าเรื่องของนางให้เอ่อฉุนฟังหรือไม่ แต่นางกลับปฏิเสธเพราะนางคิดว่าคนอื่นนั้นไม่เข้าใจนาง
ซุนไป่หยางไปตรวจอาการของเอ่อฉุน เอ่อฉุนได้ถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างซุนไป่หยางและสนมฟุ ซุนไป่หยางบอกว่าเป็นหน้าที่ของตนที่ต้องดูแลคนป่วยพลางบอกว่าอาการของเอ่อฉุนนั้นดีขึ้นแล้ว เอ่อฉุนกลับบอกว่าอาการของนางดูเหมือนยังไม่ดีขึ้น เพราะมีหมอหลวงอีกคนบอกคนละอย่างกับซุนไป่หยาง ซุนไป่หยางจึงบอกว่าเดี๋ยวจะให้คนเชิญหมอท่านนั้นมาตรวจอาการของนางให้อีกที เอ่อฉุนจึงบอกว่าซุนไป่หยางต้องการไล่นางไปรักษากับหมออื่น ซุนไป่หยางจึงให้ถุงบุหงากับเอ่อฉุน พร้อมกับอธิบายให้เอ่อฉูนเข้าใจว่าการรักษาของตนเป็นหน้าที่ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าผู้นั้นจะเป็นใคร พลางขอตัวกลับ
อันเชี่ยนมาหาเสี่ยวลู่จื่อทำให้รู้ว่าเสี่ยวลู่จื่อถูกลงโทษจากเอ้อกงกง และรู้ว่าเสี่ยวลู่จื่อกำลังจะถูกย้าย อันเชี่ยนจึงไปหาเอ้อกงกงเพื่อขอร้องไม่ให้เอ้อกงกงย้ายเสี่ยวลู่จื่อไป เอ้อกงกงจึงสั่งให้อันเชี่ยนล้างเท้าให้ตน และปฏิบัติกับตนให้สมกับที่กำลังจะเป็นภรรยาของตน สำหรับเรื่องของเสี่ยวลู่จื่อตนจะยกโทษให้ครั้งหนึ่ง
ขงอู่นำเงินที่ตนมีไปช่วยเหลือย่าของอันเชี่ยนเพื่อให้มาวังหลวงทำให้เฉินส่วงตกใจ และรู้ว่าขงอู่มีจดหมายของย่าอันเชี่ยนที่ฝากถึงอันเชี่ยนแต่ยังไม่ได้ให้นาง ตนจึงไปบอกให้อันเชี่ยนรู้ อันเชี่ยนจึงถามขงอู่ขงอู่จึงเอาจดหมายให้ และบอกว่าย่าของนางไม่เป็นไรแล้ว เอ้อกงกงผ่านมาเห็นพอดี และคิดว่าอันเชี่ยนนัดกับขงอู่ อันเชี่ยนจึงแก้ต่างให้ขงอู่ เอ้อกงกงโมโหจึงตบหน้าอันเชี่ยน ขงอู่ ขงอู่โมโหจึงว่าเอ้อกงกง เฉินส่วงพยายามไกล่เกลี่ย พอดีมีสนมเดินผ่านมา เอ้อกงกงถึงต้องกลับไป
คืนนั้นเป็นหน้าที่ของขงอู่และเฉินส่วงเฝ้าประตูวัง ขณะที่รถขนน้ำกำลังจะออกจากวัง ขงอู่และเฉินส่วงตรวจเรียบร้อยแล้วจึงให้ผ่าน แต่เอ้อกงกงได้หยุดและบอกว่ามีคนแอบนำสมบัติของในวังไปขายโดยอาศัยรถม้าตนจึงมาค้น แต่กลับไม่พบอะไรทำให้เอ้อกงกงเจ็บใจ ขงอู่จึงเหน็บแนมทำให้เอ้อกงกงลงมือจะทำร้ายขงอู่จนทำให้ผ้าปักที่ขงอู่เก็บไว้ตกลงมา เอ้อกงกงจึงบอกว่าขงอู่ขโมยของในวัง และจะให้ทหารจับตัวขงอู่และเฉินส่วงไปแต่หัวหน้าของทั้งสองมาช่วยไว้ และเฉินส่วงได้บอกว่าผ้าปักผืนนั้นเป็นของอันเชี่ยนให้กับขงอู่เอง ดังนั้นขงอู่จึงไม่ได้ขโมย เอ้อกงกงโมโหจึงกลับไป เฉินส่วงจึงกรซิบกับขงอู่ว่าต้องขอบใจอันเชี่ยนที่มาบอกให้รู้ล่วงหน้า มิเช่นนั้นคงโดนเอ้อกงกงจับตัวไปแล้ว
อันเชี่ยนกำลังกลับไปยังที่พักของตน แต่เอ้อกงกงและไต้เท้าเฉาหลานชายได้มาดักตัวไว้ และเอ้อกงกงพยายามให้หลานของตนข่มขืนอันเชี่ยน เพื่อให้สืบทายาท เพราะตนเองไม่สามารถสืบทายาทได้เพราะเป็นขันที อันเชี่ยนพยายามขัดขืน พอดีขงอู่มาช่วยไว้และทำให้ขงอู่ต้องฆ่าเอ้อกงกงและหลาน ขงอู่จึงนำศพของทั้งสองซ่อนในบ่อน้ำและปิดตายบ่อน้ำ
สนมหยูได้ถามหาเอ้อกงกงและเพิ่งรู้ว่าเอ้อกงกงหายตัวไป ฝั่งขงอู่ก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเอ้อกงกงหายไปไหน เพื่อนๆต่างมาแซวว่าเอ้อกงกงหายไปอาจเป็นเพราะขงอู่ก็ได้ เพราะเมื่อคืนขงอู่หายตัวไป แต่เฉินส่วงมาแก้ตัวไว้ให้ว่าขงอู่อยู่กับเค้า
ขณะที่ขงอู่และเฉินส่วงกำลังไปให้อาหารกานั้นเฉินส่วงได้พูดถึงเอ้อกงกงและถามถึงขงอู่ว่าไปไหนมาเมื่อคืน แต่ขงอู่ไม่ได้บอกความจริงเฉินส่วงจึงให้ขงอู่บอกคนอื่นว่าอยู่กับตน
อันเชี่ยนกำลังสอนสาวงามปักผ้าแต่เหม่อลอยทำให้สาวๆถามว่าเป็นเพราะเอ้อกงกงหายไปหรือไม่ ระหว่างนั้นอี้หยิงก็กลับมาจากตำหนักของสนมหยูและบอกว่าสนมหยูไม่อยากดูดอกไม้แล้ว เพราะต้องการสืบเรื่องเอ้อกงกง และช่วงนี้ใกล้ถึงสาร์ทจีนแล้วในวังต่างพาลือเรื่องภูตผี เหล่าสาวงามต่างพากันกลัว อันเชี่ยนจึงเข้ามาดุนางกำนัลที่เล่าเรื่อง ขณะนั้นขันทีคนสนิทของสนมหยูได้มาหาอันเชี่ยนและบอกว่าสนมหยูให้อันเชี่ยนเข้าเฝ้า
สนมหยูได้ประทานผ้าเป็นของขวัญแต่งงาน และกล่าวถึงเอ้อกงกงที่หายไป อันเชี่ยนขอร้องสนมหยูให้ไว้ชีวิตตน สนมหยูบอกว่าเพราะอันเชี่ยนช่วยพวกของฉีกงกงจึงต้องมีวันนี้ และต่อให้ไม่มีเอ้อกงกงก็ยังมีกงกงคนอื่นอีกมากมายที่จะแต่งงานกับอันเชี่ยนทำให้อันเชี่ยนเสียใจมากและกลับมาร้องไห้
อันเชี่ยนได้มาระบายกับเสี่ยวลู่จื่อ เสี่ยวลู่จื่อพยายามปลอบใจ อันเชี่ยนบอกว่าที่ตนเองทำอยู่เพราะพยายามรักษาศักดิ์ศรีของตนไว้ เสี่ยวลู่จื่อจึงบอกว่าบางทีฮองเฮาอาจจะช่วยได้ ซึ่งต้องรอให้ฮองเฮากับฮ่องเต้กลัมาก่อน
ที่ในวังได้มีข่าวลือว่าสนมเฉินที่ตายไปแล้วได้กลับมาล้างแค้นเอ้อกงกง เพราะเอ้อกงกงได้อยู่ตอนที่สนมเฉินถูกฆ่า และสนมเฉินอาจกำลังกลับมาล้างแค้นคนอื่นด้วย
ฉีกงกงได้มาหอแพทย์เพราะจะขอพักอาศัยเนื่องจากออกจากวังไม่ทัน ฉีกงกงได้คุยกับซุนไป่หยางและได้ฝากจดหมายให้กับเอ่อฉุน ซุนไป่หยางได้นำจดหมายของฉีกงกงมาให้เอ่อฉุน ซุนไป่หยางพยายามเตือนเรื่องของฉีกงกง ระหว่างที่ซุนไป่หยางกลับได้เจอกับอี้หยิงทำให้ทั้งคู่เกิดการปะทะคารมกัน และซุนไป่หยางได้พยายามเตือนเรื่องสนมหยูกับอี้หยิงและทำให้อี้หยิงทราบว่าฮ่องเต้กำลังจะกลับมา อี้หยิงได้มาหาอันเชี่ยนเพราะรู้ว่าอันเชี่ยนไม่ค่อยสบาย อี้หยิงถามอันเชี่ยนว่ามีเรื่องอะไรกัสนมหยูหรือไม่ เพราะนางเห็นว่าอันเชี่ยนไม่ค่อยสบายใจ อันเชี่ยนบอกว่าไม่มีอะไรและขอบคุณอี้หยิงที่เป็นห่วง แต่อี้หยิงพยายามถามแต่อันเชี่ยนไม่บอก อี้หยิงจึงไม่ขะยั้นขะยอต่อ
เป่าฉานได้นำเรื่องสนมเฉินมาเล่าให้กับสนมหยูฟัง ทำให้สนมหยูโมโหเป่าฉานมาแต่ยังเห็นกับที่เป็นคนสนิทจึงไม่ได้ลงโทษ ส่วนอันเชี่ยนได้นำเครื่องเซ่นมาไว้ที่บ่อน้ำที่ซ่อนศพของเอ้อกงกงและอี้หยิงแอบตามมาเห็น
เป่าฉานได้แอบไปเซ่นไหว้สนมเฉินทำให้สนมหยูรู้แอบได้สั่งทำโทษนาง เพราะนางกำลังจะเปิดโปงความลับของสนมหยูจึงได้นำเป่าฉานไปขังไว้ และทำให้สนมหยูรู้ว่ามีคนแอบแกล้งทำให้ผู้คนในวังคิดว่ามีวิญญาณของสนมเฉินกำลังอาละวาด เพราะมีคนกำลังต้องการทำร้ายตน
วันนี้เป็นวันสาร์ทจีน สนมหยูได้มาเข้าเฝ้าฮองเฮา ฮองเฮาด้ถามถึงเอ้อกงกงแต่สนมหยูบอกว่าไม่มีอะไร ฮองเฮาจึงถามเรื่องการแต่งงาานระหว่างเอ้อกงกงกับอันเชี่ยน เพราะช่วงสาร์ทจีนไม่ควรมีงานมงคล และเอ้อกงกงได้หายตัวไปเหมือนเป็นลางร้าย ฮองเฮาจึงขอให้สนมหยูยกเลิกการแต่งงานของอันเชี่ยน แต่สนมหยูบอกว่าเรื่องการหายตัวไป และการแต่งงานเป็นคนละเรื่องกัน และนางจะสืบเรื่องที่เอ้อกงกงหายตัวไป สำหรับเรื่องการแต่งงาน ถ้าฮองเฮาไม่เห็นด้วย นางจะขออนุญาตจากฝ่าบาทเอง
สนมหยูกลับมาที่ตำหนักและโมโหเรื่องฉีกงกงที่แอบแต่งเรื่องสนมเฉิน และฮองเฮาที่จะช่วยอันเชี่ยน และคิดว่าพวกนี้กำลังสมคบกันเพื่อที่จะทำร้ายนาง ระหว่างนั้นอี้หยิงได้มาหาสนมหยูและทูลเรื่องอันเชี่ยนแอบไปไหว้ที่บ่อน้ำคาดว่าเป็นเรื่องของเอ้อกงกง สนมหยูขอบใจและให้นางไปเตรียมตัวในงานสาร์ทจีนคืนนี้ หลังจากที่อี้หยิงกลับไปสนมหยูจึงได้ให้ขันทีรีบไปตามอันเชี่ยนมาพบโดยเร็ว
ในวังกำลังจัดงานสาร์ทจีน อันเชี่ยนได้มาหาเสี่ยวลู่จื่อเพื่อขอเครื่องเซ่นเพิ่ม แต่ขงอู่ได้มาชวนอันเชี่ยนแอบไปพบท่านย่าเพราะคืนนี้คนกำลังยุ่งทำให้การดูแลคนเข้าออกวังหละหลวมเราจึงไม่ควรพลาดโอกาสนี้ ระหว่างนั้นได้มีขันทีได้นำทหารจะเปิดบ่อน้ำนั้นและพบศพของเอ้อกงกง และหลานชาย นอกจากนี้ยังพบศพอีกหนึ่งศพที่ไม่รู้ว่าเป็นใครจึงได้มารายงานสนมหยู
ขงอู่และอันเชี่ยนกำลังจะหนี แต่อันเชี่ยนกลัวว่าขงอู่จะเดือดร้อนไปด้วย แต่ขงอู่บอกว่าเขาเต็มใจที่จะช่วย เฉินส่วงจึงบอกว่าเพราะว่าขงอู่ชอบนางจึงช่วย ขงอู่จึงไล่ให้เฉินส่วงไปดูต้นทาง อันเชี่ยนบอกว่านางทราบว่าขงอู่คิดอย่างไร นางจึงไม่อยากให้ขงอู่เดือดร้อน และนางคิดจะมอบตัวว่านางเป็นคนฆ่าเอ้อกงกงแต่เพียงผู้เดียว ระหว่างนั้นขันทีได้ตามหาอันเชี่ยนเจอจึงนำตัวนางกลับมาหาสนมหยู สนมหยูสอบถามกับอันเชี่ยนแต่อันเชี่ยนกลับบอกว่านางเป็นคนทำเพียงผู้เดียว สนมหยูถามเรื่องของฉีกงกงและพรรคพวกแต่อันเชี่ยนไม่ยอมบอก สนมหยูจึงขู่ว่าการฆ่าคนตายในวังนอกจากตนจะถูกประหาร ยังทำให้ญาติพี่น้องต้องถูกประหารทั้งหมด อันเชี่ยนขอร้องให้ไว้ชีวิตย่าของตน อันเชี่ยนจึงตัดสินใจที่จะบอกว่าใครเป็นพวกของเอ้อกงกงแต่พอดีฮองเฮาเสด็จมาพอดี
ฮองเฮาได้เข้ามาถามเกี่ยวกับศพของเอ้อกงกงกับสนมหยู แต่สนมหยูบอกว่านางจะจัดการเอง ฮองเฮาบอกว่านางต้องการจัดการเรื่องนี้เองเพราะนางมีอำนาจดูแลตำหนักหลัง ฮองเฮาได้นำตัวอันเชี่ยนไปที่ตำหนักของนางเอง อันเชี่ยนได้รายการฮองเฮาว่าเอ้อกงกงคิดว่านางคิดนอกใจจึงให้หลานของเอ้อกงกงขืนใจนาง แต่นางไม่ยอมจึงพลั้งมือฆ่าเอ้อกงกงและหลานตายโดยนางเป็นผู้ทำเพียงผู้เดียว ทหารยามขงอู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอให้ฮองเฮาลงโทษนางเพียงผู้เดียว ระหว่างนั้นหวังกงกงได้เข้ามารายงานว่าเจอโครกระดูกที่สามในบ่อที่ปิดตายทำให้ฮองเฮาตกใจ อันเชี่ยนบอกว่านางไม่รู้ว่าโครงกระดูกที่สามคือใคร ฮองเฮาจึงบอกว่าเรื่องนี้ควรให้มีการยกเลิกไปเสีย ไม่ควรมีการสืบสาวราวเรื่องต่อเพื่อไม่ให้ฮ่องเต้ไม่สบายใจ และอาจทำให้คนมีอำนาจในตำหนักหลังอับอาย สำหรับอันเชี่ยนนั้นให้ลงโทษนางเนื่องจากละทิ้งหน้าที่ในการเตรียมเซ่นไหว้ สำหรับเรื่องอื่นไม่ให้พูดถึงอีก อันเชี่ยนจึงขอบคุณฮองเฮาเป็นอย่างมาก สำหรับบ่อน้ำนั้นก็ให้ปิดตาย
เหล่านางกำนัลกำลังพูดถึงเรื่องราวของอันเชี่ยนเพราะเป็นห่วง นางก็กลับมาพอดี นางบอกว่านางถูกลงโทษให้จุดโคมไฟเนื่องจากไม่ได้ไปเตรียมของเซ่นไหว้ ระหว่างที่นางกำลังจุดโคมไฟในวังหลวงก็ได้เจอขงอู่เพราะมาเข้าเวร ขงอู่ไถ่ถามอันเชี่ยนเพราะเป็นห่วงและถือว่าเป็นชคดีที่ฮองเฮามาช่วยไว้ ขงอู่ได้พยายามปลอบใจอันเชี่ยน อันเชี่ยนบอกไม่ให้ขงอู่มายุ่งกับนางอีกเพราะการเดินทางในวังหลวงของทั้งสองคนนั้นต่างกัน และนางก็เดินคนเดียวได้ ดังนั้นขงอู่ไม่ควรมายุ่งเรื่องของนางอีก
ระหว่างที่ขงอู่ถูกลงโทษจากหัวหน้าให้ซักผ้าเนื่องจากละทิ้งหน้าที่เฉินส่วงก็ได้เข้ามาและเหน็บแหมเรื่องที่ขงอู่ฆ่าคนตายทำให้ขงอู่ชะงัก เฉินส่วงถามขงอู่ว่าเค้าฆ่าเอ้อกงกงกับหลานหรือไม่ ทำไมต้องทำเพื่อผู้หญิงขนาดนี้ และตอนนี้ขงอู่จะเลือกอะไรระหว่างผู้หญิงกับลาภยศ ขงอู่โมโหและกล่าวว่าตอนนี้เค้าไม่สามารถเลือกได้เพราะมีคนเลือกเส้นทางนั้นให้แล้ว เค้าไม่สามารถเลือกได้
สนมหยูกำลังเดินเล่นและได้เจอกับอี้หยิงที่กำลังจะไปที่ตำหนักของฮองเฮานางจึงถาม อี้หยิงตอบว่าเพราะมีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับสนมหยูนางจึงจะไปเข้าเฝ้าฮองเฮาเพื่อให้ความเป็นธรรม สนมหยูขอบใจแต่นางไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเพราะเดี๋ยวเรื่องนี้จะเลยเถิดไปกันใหญ่และนางก็มีข่าวลือไม่ดีอยู่แล้ว แต่นางหวังว่านางจะมีน้องสาวทีน่ารักและซื่อสัตย์ต่อนาง สนมหยูได้ให้น้ำหอมเป็นรางวัลแก่อี้หยิง และบอกว่าฮ่องเต้ชอบกลิ่นนี้ และคืนนี้มีงิ้วมาแสดงเพราะฉะนั้นนางควรกลับไปเตรียมตัว อี้หยิงได้สอบถามถึงเป่าฉานเพราะไม่เห็นหน้า แต่สนมหยูบอกว่านางควรใส่ใจเรื่องฮ่องเต้อย่างเดียวก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ อี้หยิงจึงขอตัวกลับ
เอ่อฉุนได้มาหาอี้หยิงและถามเรื่องเป่าฉานว่าเห็นเป่าฉานที่ตำหนักของสนมหยูหรือไม่เพราะมีข่าวลือว่าว่าเป่าฉานโดนผีหลอกในห้องของสนมเฉินและเผลอพูดเรื่องไม่ดีของสนมหยู สนมหยูจึงฆ่านางปิดปากแล้ว อี้หยิงบอกว่าเป็นเรื่องเหลวไหลเพราะตอนนี้เป่าฉานไม่สบายและพักฟื้นอยู่ในตำหนัก ดังนั้นเอ่อฉุนไม่ควรเชื่อความลือพวกนั้น อันเชี่ยนเข้ามาพอดีและเชิญทั้งสองให้เตรียมตัวไปดูงิ้วได้แล้ว หลังจากที่อันเชี่ยนจากไปได้มีนางกำนัลได้มารายงานบางอย่างกับอันเชี่ยน นางจึงไปดู พบว่าเป่าฉานกำลังโวยวายอยู่ในตำหนักของสนมเฉิน และได้ขอร้องให้อันเชี่ยนช่วยนางด้วย เพราะสนมหยูได้ขังนางไว้เพราะนางรู้ความลับของสนมหยู อันเชี่ยนจึงจะแอบพานางไปหาฮองเฮาหลังจากพาเหล่าสาวงามไปที่หอดนตรีเพื่อดูงิ้ว
สนมหยูและเหล่าสาวงามกำลังดูงิ้ว ระหว่างนั้นได้มีกงกงนำรองเท้าของเป่าฉานมาให้สนมหยู ซึ่งการกระทำนั้นได้อยู่ในสายตาของอันเชี่ยน เอ่อฉุน และอี้หยิง สนมหยูได้ขอตัวกลับไปนอน อันเชี่ยนได้สั่งให้นางกำนัลดูเหล่าสาวงามไว้ส่วนนางจะไปดูเป่าฉาน เอ่อฉุนเห็นอันเชี่ยนออกไปจึงสอบถามนางกำนัลแต่นางไม่ยอมบอกอะไร
อันเชี่ยนกำลังจะไปหาเป่าฉานแต่ถูกกงกงของสนมหยูเรียกตัวไว้ให้ไปช่วยทำขนมให้สนมหยูทำให้นางไม่ได้ไปหาเป่าฉาน ระหว่างที่เหล่าสาวกำลังดูงิ้วอยู่นั้น เอ่อฉุนได้หายตัวไป อี้หยิงซึ่งคอยจับตาดูเอ่อฉุนอยู่จึงแอบตามออกไป จนไปเห็นถุงกำยานของเอ่อฉุนตกอยู่ที่หน้าตำหนักของสนมเฉินนางจึงเข้าไปดู และพบว่าสนมหยูอยู่ในตำหนักนั้นพร้อมเป่าฉาน ทำให้รู้ว่าสนมหยูต้องการจะจับตัวคนที่เป็นพวกของฉีกงกงที่สร้างเรื่องผีในตำหนักของสนมเฉินขึ้น พอสนมหยูเห็นว่าเป็นอี้หยิงก็ตกใจ และอี้หยิงเองก็เช่นกัน นางบอกว่านางตามเอ่อฉุนมาและเห็นถุงกำยานตกอยู่หน้าตำหนักนางจึงคิดว่าเอ่อฉุนเข้ามาในนี้นางจึงเข้ามา และนางไม่ได้เป็นคนของฉีกงกงอย่างที่สนมหยูเข้าใจ นางกำลังถูกใส่ร้าย สนมหยูจึงยังไม่ตัดสินใจอะไรและให้นางกลับไปที่พัก ส่วนสนมหยูนั้นได้กลับไปที่หอดนตรี และพบว่าเอ่อฉุนได้นั่งดูงิ้วอยู่ ระหว่างนั้นซุนไป่หยางได้ขอตัวกลับที่พัก สนมหยูจึงได้สอบถามซุนไป่หยางว่าเอ่อฉุนได้ออกไปจากหอดนตรีบ้างหรือไม่ ซุนไป่หยางได้รายงานว่าเอ่อฉุนได้นั่งดูงิ้วตลอดและไม่ได้ไปไหน ทำให้สนมหยูเริ่มชั่งใจว่าที่แท้ใครกันแน่ที่เป็นพวกของฉีกงกง นางได้ให้กงกงคนสนิทไปตามแม่ของอี้หยิงมาพบในวันรุ่งขึ้น
เมื่อซุนไป่หยางกลับไปที่หอแพทย์พบว่าแกงกงอยู่ที่นั่น และทำให้รู้ว่าคืนนี้สนมหยูต้องการจับคนที่เป็นพวกเดียวกับฉีกงกง ฉีกงกงจึงได้วางแผนการขึ้นเพื่อตลบหลัง เมื่อสนมหยูต้องการหาคน ฉีกงกงก็ต้องนำคนไปให้ตามที่สนมหยูต้องการ โดยการใส่ร้ายอี้หยิง ซึ่งเท่ากับเป็นการกำจัดอี้หยิงไปในตัวด้วย โดยขอร้องให้ซุนไป่หยางกราบทูลสนมหยูเมื่อทรงมีรับสั่งถามเกี่ยวกับเอ่อฉุน ว่านางอยู่ดูงิ้วตลอดไม่ได้ไปไหน
เมื่ออี้หยิงกลับไปที่ตำหนัก นางได้ไปหาเอ่อฉุนเพื่อสอบถามเรื่องในคืนนี้และบอกว่าเอ่อฉุนกำลังเล่นละครเพื่อหลอกนาง เพราะอิจฉาที่นางสวยกว่า และเกิดมีปากเสียงกัน ทำให้เอ่อฉุนรู้ว่าความจริงแล้วอี้หยิงรู้มาตลอดเรื่องที่เอ่อฉุนเป็นพวกเดียวกับซู่หลิงและเหยียนฉี และเรื่องที่สลับยาผิด อี้หยิงว่าเอ่อฉุนเรื่องที่เอ่อฉุนใส่ร้ายว่านางเป็นพวกเดียวกับฉีกงกงและให้นางเป็นแพะรับปาก เอ่อฉุนถามว่าที่แท้เรื่องที่สลับยาแตกเพราะอี้หยิงนั้นเองและบอกว่าตอนแรกนางรู้สึกผิดที่ทำกับอี้หยิงเช่นนี้ แต่ตอนนี้นางไม่ได้รู้สึกผิดแล้ว อี้หยิงจึงโมโหและกลับไป
เมื่อแม่ของอี้หยิงเดินทางเข้าวัง ระหว่างทางได้เจอฉีกงกงดักรออยู่ ฉีกงกงได้สอบถามสารทุกข์ ฉีกงกงบอกว่าตอนนี้อี้หยิงกำลังเป็นที่โปรดปรานของสนมหยู แต่สนมหยูไม่ชอบให้มีเส้นสายเกิดขึ้นและการหาพรรคพวก ดังนั้นเมื่อสนมหยูถามเกี่ยวกับตนก็ต้องบอกว่าไม่รู้จัก และต้องไม่บอกใครเรื่องที่ตนมาพบกับนาง แม่ของอี้หยิงรับปากเพราะคิดว่าฉีกงกงหวังดีกับอี้หยิงแต่หารู้ไม่ว่าระหว่างที่ทั้งสองคุยกันนั้นกงกงคนสนิทของสนมหยูได้แอบจับตาดูอยู่ ดังนั้นเมื่อสนมหยูสอบถามเกี่ยวกับอี้หยิง และสอบถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอี้หยิงและฉีกงกง แม่ของอี้หยิงจึงบอกว่าทั้งสองไม่ได้รู้จักกันทำให้สนมหยูเข้าใจว่าแม่ของอี้หยิงโกหก และอี้หยิงเป็นพวกเดียวกับฉีกงกง
แม่ของอี้หยิงได้มาพบอี้หยิงและเล่าเรื่องที่สนมหยูถามไถ่ให้ฟัง และนางยังบอกด้วยว่าฉีกงกงได้มาบอกนางก่อนว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควร เพราะฉะนั้นอี้หยิงไม่ต้องกังวล พออี้หยิงได้ฟังดังนั้นก็ตกใจแต่ไม่ได้บอกอะไรแก่แม่ของตนเพราะกลัวนางจะเป็นทุกข์ ระหว่างนั้นเอ่อฉุนได้เข้ามาทักทายแม่ของอี้หยิง แม่ของอี้หยิงได้ฝากให้เอ่อฉุนดูแลอี้หยิงด้วย เอ่อฉุนรับปากและเดินจากไปพร้อมกับสายตาของอี้หยิงที่มองอย่างอาฆาต
สนมหยูได้เรียกตัวฉีกงกงมา และบอกว่านางจะไม่ยอมให้คนของฉีกงกงได้ถวายตัวกับฮ่องเต้เป็นอันขาด และบอกว่าฉีกงกงไม่มีวันชนะนางได้ ขณะนั้นได้มีพระบรมราชองค์การจากฮ่องเต้แต่งตั้งเหล่าสาวงามเพื่อถวายงาน แต่ในองค์การนั้นกลับไม่มีชื่อของอี้หยิงอยู่ ทำให้อี้หยิงเสียใจมาก
ขงอู่กำลังตรวจสอบเหล่าขันทีที่กำลังจะออกจากวัง ระหว่างนั้นหวังกงกงได้มาและถูกตรวจค้น หวังกงกงจึงนำแหวนที่ตนกำลังจะนำออกจากวังไปขายนั้นกลืนเข้าไป ขงอู่เข้าไปช่วยและนำตัวไปที่หอแพทย์ ไต้เท้าซุนได้ช่วยไว้จนนำแหวนออกมาได้ ขงอู่จะเอาโทษกับหวังกงกง หวังกงกงจึงบอกว่าเค้าเก็บได้จากโครงกระดูกที่อยู่ในบ่อน้ำที่ถูกปิดตายไม่ได้ขโมยมา ไต้เท้าซุนได้ยินดังนั้นจึงเข้าไปช่วยพูดให้และขอแหวนวงนั้นจากขงอู่ ขงอู่เห็นว่าไต้เท้าซุนเคยช่วยตนไว้ จึงไม่เอาความ เมื่อขงอู่จากไป ไต้เท้าซุนได้จัดการทำลายแหวนวงนั้น
ไต้เท้าซุนไปตรวจร่างกายให้ฮองเฮา ฮองเฮาได้มอบรางวัลให้ไต้เท้าซุนที่ได้คอยช่วยเหลือนางในทุกเรื่องตั้งแต่ตอนที่นางยังเป็นสนม และขอบใจที่ไต้เท้าซุนได้ทำลายสมบัติที่หวังกงกงขโมยจากโครงกระดูกในบ่อร้าง ส่วนโครงกระดูกนั้นเป็นใครเชื่อว่าไต้เท้าซุนคงรู้ ไต้เท้าซุนได้บอกว่าตนจำเครื่องของสนมเอี้ยนได้ และทราบว่าการหายไปของสนมเอี้ยนนั้นฮองเฮามีส่วนเกี่ยวข้อง ฮองเฮาบอกว่านางไว้ใจไต้เท้าซุน และตอนนี้นางก็คิดว่าแผนกำจัดสนมหยู
ที่หอนางโลม ไต้เท้าซุนได้มาหาซุนไป่หยางพร้อมกับมาเตือนเรื่องที่ซุนไป่หยางไปเข้าพวกกับสนมหยูให้ระวังตัว เพราะถ้าเลือกข้างผิดก็จะเป็นผลร้ายกับตัว ซุนไป่หยางได้ให้ไต้เท้าซุนกลับไปพักผ่อนเพราะเมามากแล้ว ซุนไป่หยางได้พาพ่อของตนกลับบ้าน ภรรยาของซุนไป่หยางได้รับปากจะดูแลพ่อของซุนไป่หยางให้ดี ซุนไป่หยางรู้สึกผิดที่ไม่ได้กลับบ้านจึงอยู่ทานข้าวที่บ้าน ทำให้รู้ว่าภรรยาของตนดูแลรักษาของของตนและคอยตนกลับมาตลอดเวลา และรู้สึกว่าตนไม่เคยใส่ใจภรรยาของตนเลย
เหล่าสาวงามที่ถวายตัวแล้วได้พากันพูดคุยเรื่องของฮ่องเต้ ระหว่างนั้นซุนไป่หยางได้มาตรวจอาการของอี้หยิง และทั้งสองได้มีปากเสียงกัน ซุนไป่หยางต้องการให้นางยอมแพ้ แต่อี้หยิงบอกว่าในตำหนักหลังนอกจากสนมหยูแล้วยังมีคนอื่นที่จะช่วยนางได้ ดังนั้นขอให้ซุนไป่หยางอย่ามายุ่งกับเรื่องของนาง
เมื่อซุนไป่หยางกลับไปที่หอแพทย์เพื่อเขียนใบสั่งยาของอี้หยิง และได้คิดเรื่องนี้จึงได้รายงานว่าอี้หยิงเป็นโรคติดต่อ ฮองเฮาจึงได้ให้อี้หยิงย้ายตำหนัก หวังกงกงได้นำเรื่องนี้ไปรายงานให้สนมหยูรับทราบ สนมหยูบอกให้เป่าฉานคอยจับตาดูไว้ไม่อี้หยิง อันเชี่ยน และฉีกงกงติดต่อกันได้ ของของอี้หยิงได้ถูกเผาจนหมดรวมทั้งตั๋วเงินที่แม่ของนางนำมาให้ อี้หยิงได้พยายามเอาตั๋วเงินนั้นออกจากกองไฟทำให้มือได้รับบาดเจ็บจากกองไฟ
ซุนไป่หยางมาระบายเรื่องนี้กับหญิงที่หอนางโลม เพราะตนต้องการช่วยไม่ให้อี้หยิงล่วงเกินใครได้ เพื่อรักษาชีวิตของตนไว้ แต่ก็เท่ากับทำให้ชีวิตขิงนางในวังหลวงต้องจนลงตราบที่ตนไม่บอกว่านางหายดี และตนคิดว่าตนควรจะลาออกจากวังเพื่อหลบหนีจากเรื่องวุ่นวายของวังหลวง
อันเชี่ยนได้มานั่งคิดถึงอี้หยิงในห้องที่อี้หยิงเคยอยู่ และเอ่อฉุนได้เข้ามาทักทาย เอ่อฉุนได้พยายามดึงอันเชี่ยนมาเป็นพวก แต่อันเชี่ยนบอกว่าตนจะอยู่ในวังอีกไม่นาน ดังนั้นตนคงรับความหวังดีของเอ่อฉุนไม่ได้ และตนได้รับคำสั่งจากสนมหยูให้ย้ายไปที่กองแรงงาน ในอีกครึ่งปีที่ตนอยู่ในวังขอเพียงสนมหยูไม่เคืองแค้นตนแค่นี้อันเชี่ยนก็พอใจแล้ว
ครบกำหนดอยู่ไฟของสนมหยูแล้ว นางจึงให้กงกงนำป้ายถวายงานไปให้ฮ่องเต้ ในคืนนั้นฮ่องเต้ได้ทรงอยู่กับสนมหยูแต่กลับไปก่อนรุ่งสางโดยที่นางไม่รู้ทำให้สนมหยูแปลกใจ และพบว่าตนเองมีผมหงอก และมีริ้วรอยเกิดขึ้น
ขงอู่ - ชายหนุ่มบ้านนอกที่ต้องการมาอยู่ในวังหลวง มีความฉลาด พยายามทำทุกทางเพื่อความยิ่งใหญ่และความรัก
ซุนไป่หยาง - หมอหลวงหนุ่มที่มีหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า เชื่อมั่นในตนเอง แต่สุดท้ายกลับรักผู้หญิงที่ไม่สามารถหลงรักได้
สนมหยู - หรือหยูเยี่ย สนมที่เป็นที่รักของฮ่องเต้ มีอำนาจที่สามารถคานกับฮองเฮาได้ มีนิสัยเด็ดเดี่ยว บางทีอาจดูเหมือนโหดร้าย แต่ทุกอย่างย่อมมีที่มาที่ไป
สนมฉุน - หรือเอ่อฉุน เด็กสาวที่พลัดพรากจากพี่สาวอันเป็นที่รัก และถูกสีกงกงนำมาชุบเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม จากนั้นจึงส่งเข้าวัง
สนมหัว - หรืออี้หยิง เด็กสาวหน้าตาดี เกิดในครอบครัวขุนนาง แต่เนื่องจากนางเป็นลูกของภรรยาน้อย จึงไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดี นางมีความฝันที่จะได้เข้าวังหลวงเพื่อเป็นที่รักของฮ่องเต้ และยกระดับฐานะมารดาของตน
สนมอัน - หรืออันเชี่ยน หญิงสาวที่มีความฉลาด รู้จักการปฏิบัติตนเพื่อให้อยู่รอดในวัง แต่สุดท้ายก็ต้องพาตัวเองเข้าสู่วังวนของศึกครั้งนี้