ศึกรักจอมราชันย์ ตอนที่ 4

ฮองเฮากำลังแต่งตัวเตรียมรับเสด็จฮ่องเต้ที่กำลังจะกลับมา แต่ขันทีคนสนิทขิงฮ่องเต้มาบอกว่าฮ่องเต้เหน็ดเหนื่อยต้องการพักผ่อน จึงไม่ต้องให้ใครเข้าถวายพระพร

ฮ่องเต้ได้มาเยี่ยมสนมหยูที่ตำหนัก และได้ชื่นชมองค์หญิงน้อยทำให้สนมหยูดีใจ สนมหยูชวนฮ่องเต้อยู่ทานข้าวด้วย แต่ฮ่องเต้ปัดว่าสนมหยูเพิ่งจะคลอดลูกควรพักผ่อน และฮ่องเต้เพิ่งกลับมา มีงานต้องสะสางเยอะ

เมื่อฮ่องเต้กลับที่พัก ได้มีการเลือกป้ายของสนมอื่นเข้าวังเพื่อปรนนิบัติ อี้หยิงอยากรู้อยากเห็นจึงปีนกำแพงวังดู แต่พลาดตกลงมา พอดีเอ่อฉุนมาช่วยทัน อี้หยิงกล่าวว่านางอยากเห็นหน้าฮ่องเต้ แต่เอ่อฉุนบอกว่าเราสนใจว่าฮ่องเต้เป็นไง เปลี่ยนมาสนใจว่าฮ่องเต้รู้ไหมว่าเราเป็นใครดีกว่า อี้หยิงเป็นห่วงสุขภาพของเอ่อฉุนที่ยังเป็นหวัดไม่หายให้รักษาตัวให้ดี

ที่หอหยูอี้ซึ่งใช้วาดรูปได้มีการวาดรูปสาวงามที่เข้าวังเพื่อให้ฮ่องเต้ทอดพระเนตถ์ หลังจากอี้หยิงวาดรูปเสร็จ ได้ให้ยืมปิ่นผมพร้อมทั้งเงินเพื่อเป็นค่ากำนัลแด่คนวาดภาพ เหยี่ยนฉี กับซู่หลิงจึงเข้ามาเหน็บแนม อี้หยิงไม่สนใจ พร้อมทั้งบอกให้เอ่อฉุนรีบเข้าไปเพราะได้เวลาแล้ว

สนมหยูได้พิจารณารูปวาดของหญิงสาวทั้งหมด เป่าฉานนางกำนัลของสนมหยูได้แสดงความเห็นว่าฝีมือจิตรกรที่ตำหนักหยูอี้มีฝีมือหลากหลาย ทำให้ภาพที่ออกมามีหลากหลาย สนมหยูให้ความเห็นว่าฝีมือดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเงินที่เป็นของกำนัล เป่าฉานจึงนำรูปของอี้หยิงซึ่งออกมาได้อัปลักษณ์ผิดกับตัวจริง พร้อมทั้งกล่าวว่าอี้หยิงใช้เงินเก่งสุดเหตุใดภาพจึงออกมาเป็นเช่นนี้ สนมหยูกล่าวว่าบางทีเด่นไปสวยไปก็เป็นที่เดือดร้อน เป่าฉานจึงเข้าใจว่าสาวงามคนอื่นๆ คงรวบรวมเงินกันเพื่อให้จิตรกรวาดภาพของนางออกมาไม่สวยเช่นนี้ สนมหยูให้นำภาพทั้งหมดส่งคืนหอหยูอี้เพื่อให้ฝ่าบาททอดพระเนตถ์ พร้อมทั้งให้เอ้อกงกงว่านางจะให้สาวงามเข้าร่วมงานบวงสรวงในวันมะรืน เพราะนางต้องการให้เหล่าสาวงามชิงดีชิงเด่นกัน

เมื่อภาพได้ส่งคืนหอหยูอี้เสี่ยวลู่จื่อได้เป็นคนนำภาพไปเก็บแต่เกิดอุบัติเหตุทำให้ภาพของอี้หยิงเสียหาย เสี่ยวลู่จื่อจึงนำมาให้อันเชี่ยนดู อันเชี่ยนจึงเสนอให้เสี่ยวลู่จื่อวาดภาพอี้หยิงใหม่โดยนงจะเป็นคนบอกว่าอี้หยิงมีลักษณะอย่างไร

เอ่อฉุน เหยียนฉี และซู่หลิง อ่านจดหมายที่ฉีกงกงเขียนมาว่าไม่ต้องเป็นห่วง พร้อมทั้งให้ระมัดระวังตัว ซู่หลิงคิดว่าฉีกงกงกำลังลำบาก ระหว่างที่นางกำลังปรึกษากัน ฮ่องเต้ก็กำลังดูรูปสาวงามที่ส่งมาจากหอหยูอี้ และได้สนใจภาพของอี้หยิงมาก เหยียนฉีเป็นกังวลว่าถ้าฮ่องเต้ได้เจออี้หยิง พวกนางคงขัดขวางลำบาก แต่ซู่หลิงบอกว่าดังนั้นเราต้องไม่ให้อี้หยิงได้เข้าเฝ้า

วันรุ่งขึ้นนางกำนัลได้กำลังนำน้ำมาให้อี้หยิงล้างหน้า แต่ระหว่างทางซุ่หลิงได้ตะโกนว่ามีหนูอยู่ในห้องนาง นางกำนัลจึงวางน้ำไว้ด้านนอกและไปช่วยดู ระหว่างนั้นเหยียนฉีได้นำยามาใส่ในน้ำของอี้หยิง เมื่อนางกำนัลกลับมาได้นำน้ำดังกล่าวไปให้อี้หยิงล้างหน้า หลังจากอี้หยิงล้างหน้าก็เป็นลมไปและมีไข้ทำให้ไม่สามารถไปงานบวงสรวงได้ แต่เอ่อฉุนได้อาสาของอยู่ดูแลอี้หยิงเองเพราะยังไงนางก็ปวดอยู่เหมือนกัน

ในงานบวงสรวง ฮ่องเต้ถามถึงอี้หยิงแต่เอ้อกงกงทูลว่านางไม่สบายไม่สามารถมาได้ ฮ่องเต้เห็นเหยียนฉีก็ถูกใจ ระหว่างทางกลับฮ่องเต้ทรงถามชื่อนางกับตัวนางเอง ทำให้ซู่หลิงเกิดความริษยา

หลังจากอี้หยิงฟื้น ได้กล่าวตัดพ้อกับเอ่อฉุนพร้อมทั้งเสียดายที่นางไม่ได้ไป กงกงได้นำยามาให้อี้หยิง เอ่อฉุนจึงไปนำน้ำมาให้อี้หยิงทานพร้อมยา ระหว่างนั้นนางได้บี้ยานั้นจนแหลกและไม่ได้กิน

สนมหยูได้พระราชทานพัดให้แก่สาวงาม และได้พระราชทานพัดที่สวยงามเป็นพิเศษแก่เหยียนฉี ยิ่งเพิ่มความริษยาของสาวงามกับเหยียนฉี

เหยี่ยนฉีได้นำของว่างซึ่งพิเสษกว่าของคนอื่นมาให้เอ่อฉุนกับซู่หลิงดู ซุ่หลิงบอกว่าเป็นเพราะคนรับใช้นั้นเห็นว่าสนมหยูทำดีกับเหยียนฉีนั่นเอง พวกนางกังวลว่าตอนนี้อี้หยิงมีผื่นแดงขึ้นตามตัวแต่เมื่อหมอหลวงรักษาอีกไม่นานก็คงหาย ซู่หลิงจึงว่าดังนั้นเราต้องทำให้นางไม่หาย โดยการสลีบเปลี่ยนยาระหว่างเอ่อฉุนกับอี้หยิง

เอ่อฉุนได้นำมาบ็วยหวานมาให้อี้หยิงทานแก้ขมจากยา พร้อมทั้งคะยั้ยคะยอให้อี้หยิงกินยา พร้อมทั้งบอกว่าถ้าอี้หยิงกินยา นางจะไปเอาพัดมาพัดให้หายคัน เมื่อเอ่อฉุนกลับเข้ามาอีกที ยาก็หมดแล้ว อี้หยิงบอกว่านางกินแล้ว เอ่อฉุนจึงนำพัดมาพัดให้อี้หยิง

สนมต่างๆในวังต้องการให้ซุนไป่หยางไปตรวจอาการเพราะคิดว่าเก่งกว่าหมอหลวงคนอื่น ไต้เท้าซุนถามถึงอาการของอี้หยิงกับเอ่อฉุนไม่หายซักที หมอที่รักษากล่าวว่าเค้าก็จัดยาตามอาการแล้วและแนะนำว่าให้ซุนไป่หยางรักษาอาจได้ผลก็ได้

เมื่อซุนไป่หยางมาตรวจอาการของอี้หยิงทำให้ทราบว่ายาที่อี้หยิงทานนั้นไม่ใช่ยาที่ถูกต้อง เพราะยาที่นางกินต้องมีรสเปรี้ยวแต่นางบอกว่ายามีรสขม ซุนไป่หยางได้ลองสืบจนพบว่ายาของเอ่อฉุนมีรสขม ทำให้ซุนไป่หยางเชื่อว่าเอ่อฉุนมีส่วนในการเปลี่ยนยาครั้งนี้

ระหว่างที่ขันทีกำลังสลับเปลี่ยนยาซุนไป่หยางได้มาเจอจึงสอบสวน และได้นำยาที่ถูกต้องมาให้เอ่อฉุนทาน พร้อมทั้งให้เอ่อฉุนรับประทานต่อหน้าทันที เมื่อเอ่อฉุนทานเสร็จ ซุนไป่หยางได้ถามถึงยา ทำให้รู้ว่าเอ่อฉุนไม่เคยทานยาที่นำมาให้เลย

เอ่อฉุนได้นำเรื่องที่นางสงสัยว่าซุนไป่หยางรู้ว่านางมีส่วนในการเปลี่ยนยากับเหยียนฉีและซู่หลิง ซู่หลิงจึงจะให้ต้าเหนียงลองสืบดู ระหว่างนั้นได้มีนางกำนัลมาบอกว่สนมหยูขอเชิญเหยียนฉีไปสังสรรค์ด้วยกัน สนมหยูได้ประทานเสื้อผ้าที่สวยงามของนางให้แก่เหยียนฉี

สนมหยูได้สอบถามเรื่องอาการของอี้หยิงกับซุนไป่หยางว่าเป็นธรรมชาติหรือเป็นการกลั่นแกล้ง ซุนไป่หยางได้รายงานว่าเป็นธรรมชาติมิใช่การกลั่นแกล้ง

ซู่หลิงได้นัดพบกับขันทีที่เปลี่ยนยา พร้อมทั้งนางตัดสินใจว่าควรให้อยู่นิ่งๆก่อน เอ่อฉุนได้ตามมาเพราะเป็นห่วง ซู่หลิงบอกว่าเดี๋ยวนางจะบอกเหยียนฉีเองว่าไม่ให้เคลื่อนไหวใดๆ

เมื่อเหยียนฉีกลับมาได้นำของมาอวดซู๋หลิง ซู่หลิงแสดงความกังวลว่าซุนไป่หยางรู้แล้วว่ามีการเปลี่ยนยา แต่ขันทีที่เปลี่ยนยายังไม่รู้ตัว ดังนั้นพรุ่งนี้คงมีการเปลี่ยนยาอีก ซึ่งซุนไป่หยางคงจะได้หลักฐานคราวนี้ เหยียนฉีจึงเสนอตัวว่านางจะเป็นคนเปลี่ยนยากลับมาเอง ระหว่างนั้นได้มีจดหมายสนเท่ห์มาให้เอ้อกงกงว่ามีการเปลี่ยนยากันเพื่อให้เอ้อกงกงไปจับ

วันรุ่งขึ้น ซู๋หลิงได้ไปหาเอ่อฉุน พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่านางได้ให้เหยียนฉีเป็นแพะรับบาปในเรื่องการเปลี่ยนยา เพราะต้องการให้เรื่องนี้หยุดการสืบสวน เอ่อฉุนตกใจแต่ไปช่วยเหยียนฉีไม่ทัน เพราะนางได้ถูกเอ้อกงกงจับกุมระหว่างมีกำลังสลับเปลี่ยนยา เอ่อฉุนโกรธซู่หลิงมากหาว่านางอิจฉาเหยียนฉีจึงทำเรื่องนี้

เอ้อกงกงนำเรื่องนี้ไปรายงานสนมหยู เอ้อกงกงคิดว่าคนที่นำจดหมายมาให้คงต้องการพึงบารมีของสนมหยู สนมหยูเห็นว่าคนผู้นี้ฉลาดเกินไป ไม่ควรนำมาไว้ข้างตัวเพราะอันตราย

อี้หยิงเอาเรื่องที่เหยียนฉีถูกจับมาเล่าให้เอ่อฉุนฟัง เอ่อฉุนร้องไห้ อี้หยิงพยายามปลอบ แต่ไม่รู้ว่าเอ่อฉุนร้องเรื่องอะไร ระหว่างนั้นซุนไป่หยางได้มาตรวจอาการ

เมื่อซุนไป่หยางได้ไปตรวจเอ่อฉุน พร้อมทั้งพูดเรื่องเหยียนฉีถูกจับเพราะคิดว่าเอ่อฉุนใส่ความเหยียนฉีเพื่อให้ถูกจับ ซุนไป่หยางเตือนเอ่อฉุนว่าไม่ควรใช้เลห์เหลี่ยมเพื่อทำร้ายคนอื่น

เมื่อซุนไป่หยางไปตรวจอี้หยิง อี้หยิงได้นำของกำนัลมาให้ตอบแทนที่ซุนไป่หยางพบเห็นการสลับเปลี่ยนยา ทำให้นางรู้ว่า ซุนไป่หยางรู้ว่านางไม่ได้ทานยาเหล่านั้น แสดงให้เห็นว่าความจริงอี้หยิงรู้ว่ามีคนเปลี่ยนยา และต้องการให้ซุนไป่หยางรู้เพื่อนำไปรายงานคนอื่น และบอกให้นางไปขอบใจเอ้อกงกงมากกว่า เพราะเอ้กกงกงเป็นคนจับคนร้ายได้ ไม่ใช่ตน และไม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรต้อหน้าตนด้วย