มีสมัยหนึ่งรัฐบาลต้องการส่งเสริมการอ่านอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไรขอให้ได้อ่านไว้ก่อน เพราะโทรทัศน์มาแรงมากจนเด็กติดการดูด้วยตา จนอ่านไม่เป็น แม้กระทั่งนักศักษาระบบอุดุมศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำบางคนยังอ่านไม่เป็นเลยครับ อ่านอย่างไรจึงเรียกว่าอ่านเป็น พูดง่ายๆ ก็คือถ้าเดินเข้าไปในร้านหนังสือแล้วหยิบมาหนึ่งเล่มคนที่อ่านเป็นควรจะอ่านจบในเวลาไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง หลายคนอาจเถียงว่าเป็นไปไม่ได้ ผมคนหนึ่งละที่จะบอกว่าเป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะอ่านแบบละเอียดให้จบใน 1 ชั่วโมง แต่เราสามารถอ่านให้ได้เนื้อเรื่องที่สำคัญใน 1 ชั่วโมงได้แน่ๆ ครับไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไรก็ตาม อยากอ่านเป็นทำอย่างไร ไม่ยากครับเคล็ดลับก็คือ อ่าน อ่านเท่านั้นที่จะทำให้อ่านเป็นได้ อ่านไปเถอะ ไม่ว่าจะเป็นหนังสืออะไร อะไรก็ได้อ่านได้หมด ดีกว่าดูทีวีเป็นไหนๆ แต่... หนังสือนั้นควรเน้นตัวหนังสือนะครับ พวกที่มีภาพเยอะอย่างเช่นการ์ตูนเนี่ยจะไม่ค่อยได้ประโยชน์นัก แต่ก็เป็นการปูพื้นฐานที่ดีสำหรับเด็ก พอโตขึ้นหน่อยค่อยหาหนังสือที่ภาพน้อยลงตัวหนังสือเยอะขึ้นมาให้อ่าน ไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือเรียนด้วย เพราะมันน่าเบื่อครับ

คำถามก็คือหนังสืออะไรเหมาะสมที่สุดสำหรับการหัดอ่าน ความจริงแล้วผู้ใหญ่มักบอกให้เด็กอ่านหนังสือเรียน ผมก็โดน โดนบ่นจนเบื่อ เบื่อมากๆ ครับ อ่านแล้วก็หลับ ตื่นมาก็อ่านแล้วก็หลับไปอีก ไม่เห็นจะได้อะไรเข้าหัว แล้วผมก็เจอของดีเข้าจนได้ การ์ตูนครับ อ่านแล้วมันส์หยดติ๋ง แต่พวกเล่มบางๆ ผมจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ มันอ่านจบเร็วเกินไป ข้อดีของการอ่านแบบยาวๆ ก็คือ สมาธิ ครับ แทนที่จะไปเล่นของเล่นก็อ่านหนังสือ ได้ฝึกสมาธิดีมากๆ สมองจดจ่ออยู่ที่เรื่องเดียวนานๆ แล้วก็ติดหนังสือในที่สุด พออ่านการ์ตูนจบก็อยากอ่านอย่างอื่นต่อครับ เรื่องธรรมดา เนื่องจากไม่อยากให้หนังสือสั้นและจบเร็วเกินไปผมเลยเบี่ยงมาอ่านนิยายซะเลย เพราะมันคล้ายการ์ตูนไงครับ มีเรื่องราวได้จินตนาการไปในตัว นิยายเรื่องไหนดีที่สุดผมไม่บอก เพราะเรื่องแบบนี้ต่างคนต่างชอบครับ ผมชอบแนวผจญภัย แต่ไม่ต้องลึกลับขนาดซ่อนเงื่อนชิงไหวชิงพริบแข่งกับเวลา เอาแค่พระเอกเริ่มจากไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนเก่งน่ะครับ พลาดท่าบ้าง แต่ก็กลับมาชนะได้ทีหลัง ไม่แย่ขนาดสู้ทีไรชนะทุกทีแม้ว่าจะสู้ไม่ได้แต่ฮึดแล้วชนะบ่อยจะน่าเบื่อไปนิด สุดท้ายนิยายที่ชอบก็เลยกลายมาเป็นนิยายกำลังภายในไปเกือบหมด

ทำไมอ่านบ่อยๆ แล้วถึงอ่านเร็ว นี่เป็นคำถามที่คนไม่อ่านไม่รู้หรอกครับ โดยเฉพาะคนอ่านนิยายที่เสพติดแล้ว สาเหตุง่ายนิดเดียวครับ เพราะว่าหนังสือทุกเล่มมีส่วนประกอบสองอย่างครับ เนื้อ กับ น้ำ นั่นเอง เวลาอ่านหนังสือบ่อยๆ เราจะมองรู้ว่าหน้านี้เนื้ออยู่ไหน น้ำอยู่ไหน ถ้าอยากอ่านเร็วก็อ่านแต่เนื้อแล้วข้ามน้ำไปซะเลย คนที่อ่านนิยายแบบติดตามมักจะใจร้อนอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เวลาอ่านรอบแรกก็จะอ่านแบบเร็วเล็กน้อย เพราะเอาแต่เนื้อเรื่องล้วนๆ รายละเอียดเอาไว้ก่อน แล้วรอบสองจะตามมา อย่าคิดว่าอ่านช้านะครับ เร็วกว่ารอบแรกซะอีก มันก็เหมือนกับงานศิลปะน่ะแหละครับ รอบแรกขึ้นโครงรอบสองก็ใส่รายละเอียด เนื่องจากเห็นภาพรวมทั้งหมดแล้วทำให้ง่ายต่อการลงรายละเอียด อันนี้เป็นการอ่านแบบ top-down หยาบมาละเอียด ถ้าคนที่ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือจะสังเกตุไม่ออกครับ สุดท้ายก็ต้องอ่านทุกตัวอักษร ช้ากว่ามากนัก

เย็นนี้อย่าลืมแวะร้านหนังสือนะครับ