TLUG - A new wave

สืบเนื่องจาก TLUG ได้กลับมาที่เกษตรอีกครั้งหลังจากที่ย้ายบ้านไปนาน ผมยังโชคดีที่ถึงเวลาต้องเอารถมาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เลยมีเหตุผลที่จะออกจากบ้าน ไหนๆ ก็ออกมาแล้วเลยใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์โดยการเข้าไปฟังซะหน่อย โชคดีอีกรอบที่ห้องประชุมอยู่ตรงข้ามห้องทำงาน สบายแท้ๆ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเสร็จก็นั่งทำงานรอเวลา

พอใกล้จะถึงเวลาเริ่มงาน mk ก็เดินมาเอากล้องถ่ายวีดีโอตามระเบียบ ผมก็ยังไม่กระตือรือร้นเท่าไหร่ เพราะยังมีภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ต้องจัดการให้เสร็จ เริ่มแล้วมันเลิกจาก รู้งี้ไม่เริ่มดีกว่า เอาเข้าจริงเลยเข้าสายไปหน่อย แต่ก็ยังทันฟังคนแรก

  1. คนแรกทำให้ผมประหลาดใจ เพราะไม่มีในกำหนดการ คาดว่างานวันนี้คงสนุกแน่นอน เพราะเค้าคือหนึ่งในสีสันของวงการ เป็นคนแรกๆ ที่ผมรู้จัก เค้าก็คือ อ.สุพัตร์ ฟ้ารุ่งสาง นั่นเอง เผื่อใครไม่รู้ อ.สุพัตร์เป็นบิดาของลินุกส์ตัวจริงเสียงจริง และสิ่งที่อ.มาแนะนำให้รู้จักก็คือ OLPC/NGUD 11.8 ที่ว่ากันว่าดีกว่า OLPC ตัวจริงซะอีก ที่สำคัญดูหนังฟังเพลงได้ครบ เรียกว่าครบครันกว่า Sugar หลายช่วงตัว ใครสนใจให้ติดต่อหลังไมค์
  2. ถัดมาคนที่สองไม่ทันได้ฟังชื่อแต่คิดว่าน่าจะเป็นคุณอัครวุฒิจาก MamboHub มาพูดเรื่องการมีส่วนร่วมในโครงการโอเพนซอร์สในฐานะของบริษัทที่ใช้โครงการโอเพนซอร์สทำธุรกิจ ผมว่าเป็นจิตสำนึกที่ดีเมื่อเราหารายได้จากโอเพนซอร์สก็ควรให้อะไรคืนเค้าไปบ้าง ไม่ต้องมากก็ได้ เพราะมีคนให้หลายคนแล้ว แต่อย่าคิดว่ามีคนให้แล้วเราไม่ต้องให้ ในอีกมุมมองนึง ผมก็เห็นว่าการมีส่วนร่วมในโครงการประเภทนี้อาจเข้าไปในรูปของนักพัฒนา นักทดสอบ หรืออะไรก็ได้ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับเงินเสมอไป ไม่ได้หมายความว่าเงินไม่สำคัญ หรือว่าเงินสำคัญนะครับ มันสำคัญหมดแหละ ได้เงินก็ดี ไม่ได้เงินก็ดี แค่กำลังใจก็เกินพอแล้ว
  3. คนที่สามเป็นคุณ keng (ถ้าจำไม่ผิด และ mk ก็ไม่ผิดพร้อมๆ กัน) เป็นเรื่องน่าสนใจมากเรื่องนึง ผมเรียกเค้าว่า มนุษย์ 3 OS เพราะว่าแล็บท็อปเป็น Mac ที่บ้านใช้ Ubuntu ที่บริษัทใช้ Windows แล้วก็มานึกได้ว่าผมก็ทำตัวแบบนี้เหมือนกัน แล็ปท็อปเป็น Ubuntu ที่โต๊ะทำงานมี eMac กับ Windows อย่างละตัว คุณ keng พยายามใช้ทุกอย่างเป็นโอเพนซอร์สเพราะว่าไม่อยากเสียเงินซื้อ และก็ไม่อยากใช้ของที่ผิดกฏหมาย แสดงให้เห็นว่าเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตพอสมควร ผมชอบอยู่อย่างตรงที่คุณ keng ไม่พยายามบอกให้บริษัทไปใช้โอเพนซอร์ส เพราะถึงยังไงเค้าก็คงไม่ยอม ผมก็ว่างั้น ทำไปก็เสียเวลาเปล่า ทางที่ดีก็คือเราควรจะใช้โปรแกรมที่ทำงานได้ทั้ง Windows Linux Mac ซึ่งชีวิตประจำวันจะมีอะไรมากไปกว่า Browser, Word Processor กับ Spreadsheet ส่วนตัวผมเอง xterm ก็เกินพอแล้ว
  4. คนที่สี่คือคุณ bact' ที่มาแบบเด็กแนวมากถึงมากที่สุด แค่ฟังดูก็รู้ว่าเป็นนักคิดคนนึง ชอบตั้งคำถามให้ตัวเอง ชอบตอบเอง และชอบสิ่งที่ดูแล้วสร้างสรรค์ โชคร้ายที่ความสร้างสรรค์ของผมมันหดหายไปเกือบหมดตั้งแต่สมัยอนุบาล ที่เหลือๆ มามันเป็นความสร้างสรรค์เพื่อมั่ว บอกตามตรงว่าผมไม่ค่อยมีไอเดียแบบนักคิดเท่าไหร่ ผมชอบทำตามระบบ ถ้าไม่ชอบค่อยแหก แต่ท่าทางคุณ bact' จะเป็นพวกแหกก่อนตามทีหลัง แสดงให้เห็นถึงความเป็นเด็กแนว เข้าเรื่องกันซักนิดดีกว่า ประเด็นที่น่าสนใจมีปลายประเด็น ส่วนใหญ่เป็นการเล่นคำกับทัศนคติ การมองโลกในแง่มุมที่แตกต่างกัน ผมเห็นด้วยเกือบหมด (เพราะผมชอบตาม) แต่ถ้าให้บอกตรงๆ คงต้องบอกว่าผมชอบฟังการพูดแบบที่เหมือนเล่าเรื่องมากกว่า เหมือนฟังนิยายที่มีเนื้อหาเป็นประสบการณ์ของใครซักคนสองคน พูดง่ายๆ ก็คือการนินทาชั้นสูงนี่เอง
  5. คนถัดมาคือคุณโดม ฟังสนุกมีสาระประปราย ผมว่าคุณโดมเป็นคนพูดเก่งมาก มากที่สุดคนนึงเท่าที่เคยรู้จักมา รู้จักจังหวะที่จะพูดให้ตลกแต่ยังคงสอดแทรกเนื้อหามาบ้าง ซึ่งผลของการพูดแบบนี้ก็มีทั้งดีและไม่ดี ข้อดีคือคนสนใจฟังกันเยอะ แต่ข้อเสียก็คือเนื้อหาจะน้อยหน่อย น้ำเยอะ เพราะฉะนั้นงานไหนคุณโดมมาพูดก็ให้เตรียมเผื่อเลยเวลากันได้เลย งานนี้ให้คนละ 15 นาที แต่เท่าที่ผมฟังดูไม่น่าจะต่ำกว่า 30 นาทีนะ งานนี้คุณโดมก็มาเล่าประสบการณ์ตามเคย ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อนสมัยที่ TLWG ยังพึ่งเริ่มและได้เจอกับบุคคลในตำนานหลายๆ คนจนบัดนี้คนเหล่านี้ก็ยังวนเวียนอยู่ที่ไหนซักที่ในสายแลน (mk บอกว่า 15 นาทีพอดีเป๊ะ ผมละงง สงสัยนาฬิกาในหัวมันจะเพี้ยนหนักขึ้นทุกวัน หรือไม่ก็ตอนนั้นงานมันเร่งจัด เวลาเลยดูเหมือนผ่านไปเร็ว)

ถัดจากคุณโดมก็พักครึ่ง... แต่ผมต้องกลับไปปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จ สรุปว่าไม่ได้ฟังต่อ ก่อนจะกลับบ้านแว๊บไปดูเห็นอ.ภุชงค์ออกไปพูดกะเค้าด้วย เห็นไกลๆ ก็รู้ทันที งานนี้เลิกช้าแน่ๆ สงสัยจะพูดปิดท้าย นับว่าคนจัดลำดับรู้งาน เห็น mk ว่าหลังๆ งานสนุกเพราะมีคนอาสาออกมาพูด เดี๋ยวเอาวีดีโอมาดูก็ได้ แล้วจะได้ดูวีดีโอเมื่อไหร่หว่า เอ๊ะวีดีโออยู่กับผมเอง... งั้นเดี๋ยวต้องรีบจัดการ คาดว่าวันสองวันก็คงเสร็จ เดี๋ยว mk ก็เตือนมั๊ง

สรุปว่าอนาคตของโอเพนซอร์สไทยจะเป็นยังไงต่อไปก็ยังไม่รู้ เพราะมันขึ้นกับเราทุกคน รัฐบาลไม่เกี่ยวซักนิด แต่ที่แน่ๆ งานนี้เกิดขึ้นเพราะรัฐบาลล้วนๆ ต้องยกนิ้วให้ เรียกว่าเป็นแผนทรมานสังขาร ปลุกผีโอเพนซอร์สในไทยให้ฟื้นขึ้นมาภายใน 4 วัน ส่วนจะมี TLUG ต่อรึเปล่า... ก็ขึ้นอยู่กับเราทุกคนอีกเช่นกัน

Reply