Thai

ตรรกะ หรือ บูลีน

ความจริงแล้วข้อมูลชนิดตรรกะในไพธอนไม่มีอยู่จริง เพราะไม่จำเป็นต้องมีนั่นเอง ส่งที่ไพธอนมีให้นั้นเป็นเพียงค่าคงที่เพื่อใช้แทนตรรกะ จริง และ เท็จ เท่านั้น ได้แก่

  • True - แทนค่าจริง มีค่าเป็น 1
  • False - แทนค่าเท็จ มีค่าเป็น 0

ค่าคงที่เหล่านี้มีใช้ในไพธอนรุ่น 2.2.1 ขึ้นไปเท่านั้น ถ้าต้องการให้ใช้ได้กับรุ่นเก่ากว่านี้ต้องใช้ค่า 1 0 หรือประกาศไว้ใช้งานเอง

ชนิดข้อมูลพื้นฐาน

ไพธอนมีชนิดข้อมูลหลายประเภท แต่ชนิดข้อมูลธรรมดามีเพียง 3 ชนิดเท่านั้น ได้แก่

  1. จำนวนเต็ม (Integer)
  2. จำนวนจริง (Float)
  3. สตริง (String)

และชนิดข้อมูลแบบซับซ้อนอีก 2 ชนิด

  1. ลิสต์ (List)
  2. ดิกชันนารี (Dictionary)

คำว่าซับซ้อนหมายความว่าข้อมูลเหล่านี้จะประกอบไปด้วยข้อมูลประเภทอื่นอยู่ภายในแล้วแต่การใช้งาน เช่น ลิสต์ของจำนวนเต็ม และดิกชันนารีของสตริง เป็นต้น ลิสต์ในที่นี้หมายถึงอาเรย์ (Array) ในภาษาอื่นนั่นเอง แต่ถ้าแบ่งประเภทใหญ่ๆ จะประกอบด้วย

ติดตั้งไพธอน

ก่อนที่จะเริ่มหัดไพธอนเราก็ต้องมีไพธอนประจำกายเสียก่อนครับ สำหรับคนที่มีลินุกส์อยู่ในครอบครองหรือสามารถหามาใช้ได้สามารถข้ามขั้นนี้ไปเลยเลย เพราะลินุกส์ทุกตัวมีไพธอนอยู่แล้ว แต่สำหรับบางคนที่โชคร้ายที่ใช้ FreeBSD ก็ต้องลงไพธอนด้วยครับ เพราะไม่ใช่ของปกติที่มีตั้งแต่ลง รวมไปถึงคนที่ใช้วินโดส์ด้วยเช่นกัน

ช่างถ่ายรูป กับ คุณนาย

ที่มา: Forward Mail

10 ปีหลังจากสงครามโลกครั้งที่2
ประเทศหนึ่งในยุโรปกำลังประสบปัญหาประชากรลดลง
เนื่องจากการตายของคนในสงครามไปอย่างมาก
ทำให้รัฐบาลนี้ต้องออกกฏหมายฉบับหนึ่งเพื่อให้มีประชากรมาพัฒนาประเทศ
ซึ่งกฏหมายฉบับนี้กำหนดว่า "หากครอบครัวใดอยู่มา 5 ปี ไม่มีบุตร
ทางรัฐจะส่งคนของรัฐบาลไปช่วยทำบุตรให้กับภรรยาครอบครัวนั้น"
นายแฟรงและนางแมรี่ แต่งงานกันมาจะครบ 5 ปีในวันพรุ่งนี้แล้ว
ทั้งคู่ยังไม่มีลูก
ดังนั้น
จึงถึงกำหนดที่ทางรัฐบาลจะส่งคนของทางการมาช่วยทำลูกให้กับครอบครัวนี้
วันต่อมานายแฟรงสามีรู้สึกไม่ค่อยดีกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับภรรยาของตน
ในวันพรุ่งนี้และเป็นห่วงภรรยา เขาจูบภรรยาก่อนไปทำงานและบอกนางว่า
"วันนี้ตนของทางการก็จะมาแล้ว ระวังตัวด้วยนะผมเป็นห่วงคุณ"
หลังจากแฟรงค์ไปได้ไม่นานนางแมรีก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อ
เป็นชุดนอนแสนสวยบางใสแจ๋ว เธอแต่งหน้าทำผม ฉีดน้ำหอมเสียฟุ้งไปทั้งตัว

ในตอนนั้นช่างถ่ายภาพผู้ชำนาญในการถ่ายรูปเด็กกำลังหาลูกค้า
เดินมากดกริ่งที่บ้านนางแมรี่ กริ๊งๆๆๆ!!! เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น
เธอจึงวิ่งไปเปิดประตูก็พบช่างถ่ายรูป "เอ่อ..เอ่อ..อ่า สวัสดี ค่ะ"
"เอ..ที่บ้านนี้มีเด็กหรือเปล่าครับ คือว่าผมเป็น.."
"ไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ค่ะ สามีดิฉันบอกแล้วว่าวันนี้คุณจะแวะมา"

ชายแปลกหน้าถึงกับงง แต่ด้วยความอยากได้ลูกค้าจึงพูดต่อไปว่า
"ผมเชี่ยวชาญในเรื่องเด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝาแฝด"
"เหรอคะ สามีดิฉันก็ว่าอย่างเดียวกัน เข้าไปในบ้านก่อนสิคะ"
"ถ้างั้นสามีคุณคงจะบอกคุณด้วยว่า?."
"ค่ะ..ค่ะ เราตกลงกันแล้วว่าวิธีนี้คงจะดีที่สุดสำหรับเรา รับได้ค่ะ"
"ดีมาก เราจะเริ่มต้นกันเลยดีไหม"

นางแมรีหน้าแดงขึ้นมาทันทีพร้อมกับเอ่ยขึ้นมาว่า
"เอ่อ..เริ่มตอนนี้เลยเหรอคะ แล้วจะเริ่มยังไงตรงไหนดีคะ"
"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเองคุณนาย ผมขอแนะนำว่าใน อ่างอาบน้ำก่อน
แล้วค่อยย้ายมาที่โซฟา หลังจากนั้นก็พื้นห้อง เป็นไงครับ"
"อ่างอาบน้ำ โซฟา พื้นห้อง ?โอ้ เขาทำกันอย่างนี้เองเหรอมิน่า เราถึงไม่มี
เอ่อ..อ่า?"
"เอาล่ะครับ คุณนายที่น่ารัก
แม้ว่าคนที่ฝีมือดีที่สุดในพวกเราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันจะออกมาดี
ทุก ๆ ครั้ง แต่ใน 6 ครั้งจะมีออกมาดีครั้งหนึ่งแน่ ๆ
สำหรับผมแล้วที่ผมทำได้ออกมาดีที่สุดมักจะเป็นในอ่างอาบน้ำ"
"ขอประทานโทษเถอะค่ะ ในอ่างอาบน้ำดูมันเหมือนกับว่า
จะไม่ค่อยเป็นทางการเท่าใดนัก"
"ถูกแล้วครับ งานของผมเนี่ยทำกันลวก ๆ เร่ง ๆ รีบ ๆ ไม่ได้"

ว่าแล้วก็ไปหยิบอัลบัมอวดรูปเด็กๆซึ่งเป็นผลงานการถ่ายภาพของเขาให้นางแมรีดู
"ดูเด็กคนนี้ซิ เป็นผลลงานที่ดีมากของผม ผมต้องทำงาน อย่างหนักเป็นเวลา 4
ชั่วโมงกว่าจะได้ผลงานแบบนี้ น่ารักไม๊ล่ะ"
"น่ารักมากค่ะ"
"แต่สำหรับงานบางงานนั้นยุ่งยากไม่ใช่น้อย เห็นเด็กคนนี้ไหม
ผมต้องทำงานขณะที่อยู่บนหลังคารถเมล์ประจำทาง"
"บนรถประจำทางโอ้!ตายแล้ว"
"ว่าไปแล้วมันไม่ยากเลยสำหนับคนที่เชี่ยวชาญ งานของผม ให้ความสุขมาก
ผมใช่เวลานานหลายปีฝึกแล้วฝึกอีกจนผมคิดว่าเทคนิคการทำงานของผมนั้นล้ำหน้า
คนอื่นทั้ง
ดูเด็กในอัลบัมคนนี้ซิ
เป็นผลงานที่ได้มาจากการทำงานในห้างสรรพสินค้าในตอนบ่ายวันหนึ่ง"
"ไม่น่าเชื่อเลย" (ตอนนี้เธอทำท่าจะเป็นลม)
"และนี่คือรูปเด็กฝาแฝดที่สวยและน่ารักที่สุดในเมืองนี้
ลูกแฝดคู่นี้สวยมากแม้ว่าแม่ของพวก ?เอ่อ..อ่า
ไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือสักเท่าใดนัก
เราไปทำงานกันที่สวนสาธารณะกลางเมืองเป็นงานที่ยากที่สุดเท่าที่เคย
ผู้คนมามุงดูเราเป็นร้อยคน เบียดเสียดจะเหยียบกันตายให้ได้"
"เป็นร้อยคนเชียวเหรอคะ โอ้..ตาย แล้วเธอยอมเหรอคะ"
"ตอนแรกก็ไม่ครับ ผมต้องใช้เวลากว่า 3 ชม.กว่าจะเสร็จได้
ต้องขอตำรวจ2นายมาช่วยผม ความจริงผมน่าที่จะจัดการให้ ได้หลาย ๆ ท่า
แต่มันมืดค่ำเสียก่อน ยิ่งกว่านั้นพวกกระรอก มันแอบมาแทะอุปกรณ์ของผมด้วย
ผมเลยต้องเลิกแค่นั้น ว่าไงครับคุณนาย คุณพร้อมหรือยัง
ถ้าพร้อมแล้วผมจะได้ตั้งขาหยั่ง แล้วเราก็มาเริ่มลงมือทำงานกัน"
"ต้องใช้ด้วยเหรอคะ" (เริ่มหน้าซีด)
"ครับ ขาหยั่งเพื่อช่วย อุปกรณ์ของผม
มันหนักเกินกว่าที่ผมจะถือมันเอาไว้ได้ด้วยมือนาน ๆ
คุณนาย! คุณนาย คุณนาย! อ้าวเป็นลมไปซะแล้ว
แล้วนี่ลูกของคุณที่จะถ่ายรูปอยู่ไหนละ คุณนาย ๆๆๆๆ"

สวัสดีชาวโลก

โปรแกรมแรกที่ทุกคนมักจะเห็น และมักถูกใช้เป็นตัวอย่างของภาษาใดๆ ก็คือ Hello, World! นั่นเอง สาเหตุก็เพราะทุกภาษาควรสามารถติดต่อกับผู้ใช้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง อย่างน้อยก็ต้องมีการอินพุต และเอาต์พุต สิ่งที่พื้นฐานที่สุดก็คือเอาต์พุตนี่เอง เพราะบางโปรแกรมไม่ต้องรับอินพุตก็ได้

ประโยคที่ ......... เฮ้อ

ที่มา: Forward Mail

  1. เธอไม่ต้องใช้กบเหลาดินสอหรอกนะ
    เพราะคำพูดและหน้าตาของเธอแหลมพอที่จะแทงให้ใจฉันอ่อนยวบแล้ว
  2. อยากมี พาวเวอร์พอยต์
    จะได้พรีเซ้นความรักของฉันที่มีต่อเธอได้
  3. ตายแล้ว เธอรู้ไหม
    เธอทำให้ขยะล้นโลกนะ...............เพราะหัวใจใช้แล้วของฉันที่เธอไม่ต้องการมันแล้วไม่สามารถรีไซเคิลได้