General

A Glass

ที่มา: Forward Mail  Glass "แก้วหนึ่งใบ"

Put the Glass Down
จงวางแก้วใบนั้นลง

A lecturer was giving a lecture to his student on stress management.
ขณะที่ครูกำลังสอนนักเรียนของเขาในหัวข้อการจัดการกับแรงกดดันและความเครียด

He raised a glass of water and asked the audience, "How heavy do youthink this glass of water is?"
ครูได้หยิบแก้วน้ำใบหนึ่งขึ้นมาและถามนักเรียนว่า"พวกเธอคิดว่าแก้วน้ำใบนี้หนักเท่าไหร่"

The students’ answers ranged from 20g to 500gm.
คำตอบของนักเรียนมีตั้งแต่ 20 กรัมถึง 500 กรัม

"It does not matter on the absolute weight.

The Rose

ที่มา: Forward Mail

วันแรกที่พวกเราเริ่มการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น
อาจารย์ของเราได้เข้ามาแนะนำตัว
และบอกให้พวกเราทำความรู้จักกับคนอื่นๆที่เราไม่รู้จักมาก่อน

แตกต่าง.. แต่..เติมเต็ม

ที่มา: Forward Mail

แปลกมั๊ย..ใคร ๆ ก็คิดว่าเวลากับนาฬิกาเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ

จริง ๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นซักหน่อย


เวลา... เดินไปข้างหน้า

นาฬิกา.. เดินอยู่ที่เก่า


เวลา.. เราไม่อาจย้อนกลับ

นาฬิกา.. เราหมุนย้อนมันได้


เวลา.. เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน

นาฬิกา.. เสียก็ซ่อม หรือซื้อใหม่ได้


เวลา.. ได้มาฟรีๆ ไม่ต้องแลกกับอะไร

นาฬิกา.. ยิ่งสวยยิ่งแพง ใช้เงินซื้อมันมาทั้งนั้น


แล้วอย่างนี้ มันจะคู่กันได้ยังไง ในเมื่อมันแตกต่างกันเหลือเกิน


แต่ถามหน่อย.. ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลามั๊ย

หรือถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จักเวลา จะมีประโยชน์อะไร


ถึง 2 สิ่งจะแตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว

ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ เพียงแต่จะมองเห็นมันรึป่าว?


เวลากับนาฬิกา ก็เหมือนฉันกับเขา

ฉันกับเขา.. อาจไม่มีอะไรเหมือนกัน

ฉันกับเขา.. มีความคิด และวิถีชีวิตที่ต่างกัน

ฉันกับเขา.. อาจเดินกันคนละเส้นทาง

ฉันกับเขา.. อาจมีความฝันที่ห่างไกลกัน


ฉัน.. อาจเหมือนกับเวลา ที่ชอบเดินไปข้างหน้า

หาสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทาย โดยทิ้งหลายสิ่งไว้ข้างหลัง

เขา.. อาจเหมือนกับนาฬิกา ที่ยังเป็นแบบเดิมๆ

ใช้ชีวิตและทำหน้าที่ไปเรื่อยๆ ในมุมเก่าๆ


ฉันอาจไม่พบกับเขาเลย ถ้าฉันยังดึงดันจะมองแต่ข้างหน้า

ฉันอาจไม่พบกับเขาเลย ถ้าฉันไม่มองไปข้างหลัง

เขายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังอยู่แบบเดิม ๆ

เขายังไม่เห็นฉัน เพราะเขายังก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเขาไป


แต่ฉันยังเฝ้ามอง เฝ้ารอ …

ความแตกต่าง อาจสร้างกำแพงบังเขาไว้

แต่ฉันยังเชื่อมั่น ว่าซักวัน สิ่งนั้นน่ะแหละ

ที่จะเชื่อมโยงใจเราเข้าหากัน


ความแตกต่าง จะเติมเต็มส่วนที่เราขาดหาย

และสุดท้าย ก็จะเหลือเพียงแค่คำว่า.. กันและกัน

เหมือนกับเวลาและนาฬิกา ที่ยังคู่กันเสมอมา และตลอดไป

ขาวกับดำ

ที่มา: Forward Mail

เศรษฐีคนหนึ่งชอบใจลูกสาวชาวนายากไร้ผู้หนึ่ง
เขาเชิญชาวนากับลูกสาวไปที่สวนในคฤหาสน์ของเขา
เป็นสวนกรวดกว้างใหญ่ที่มีแต่กรวดสีดำกับสีขาว

เศรษฐีบอกชาวนาว่า “ท่านเป็นหนี้สินข้าจำนวนหนึ่ง
แต่หากท่านยกลูกสาวให้ข้า จะยกเลิกหนี้สินทั้งหมดให้”

ชาวนาไม่ตกลง

เศรษฐีบอกว่า “ถ้าเช่นนั้นเรามาพนันกันดีไหม
ข้าจะหยิบกรวดสองก้อนขึ้นมาจากสวนกรวดใส่ในถุงผ้านี้ ก้อนหนึ่งสีดำ
ก้อนหนึ่งสีขาว
ให้ลูกสาวของท่านหยิบก้อนกรวดจากถุงนี้ หากนางหยิบได้ก้อนสีขาว
ข้าจะยกหนี้สินให้ท่าน และนางไม่ต้องแต่งงานกับข้า
แต่หากนางหยิบได้ก้อนสีดำ นางต้องแต่งงานกับข้า และแน่นอน
ข้าจะยกหนี้ให้ท่านด้วย”

ชาวนาตกลง

เศรษฐีหยิบกรวดสองก้อนใส่ในถุงผ้า
หญิงสาวเหลือบไปเห็นว่ากรวดทั้งสองก้อนนั้นเป็นสีดำ

เธอจะทำอย่างไร?

หากเธอไม่เปิดโปงความจริง ก็ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกง
หากเธอเปิดโปงความจริง เศรษฐีย่อมเสียหน้า และยกเลิกเกมนี้
แต่บิดาของเธอก็จะยังคงเป็นหนี้เศรษฐีต่อไปอีกนาน

เราส่วนใหญ่ถูกสอนมาให้มองปัญหาแบบขาวกับดำ
แต่ไม่ใช่ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้อย่างขาวกับดำเสมอไป
ในทางตรงข้าม หากเราลองมองต่างมุม
จะพบว่าหนทางการแก้ปัญหามีมากกว่าหนึ่งสายเสมอ
และการยืดหยุ่นพลิกแพลงไปตามสถานการณ์เป็นวิธีการหนึ่ง

บางครั้งในการแก้ปัญหา
เราอาจต้องสร้างเครื่องมือในการแก้ปัญหาขึ้นมาใหม่

ในยุคสงครามเย็นที่กินเวลานานหลายสิบปี
สูญเสียชีวิตและทรัพยากรโลกมหาศาล
ไม่มีใครกล้าเชื่อว่า สงครามเย็นสามารถยุติลงได้ หรือเร็วเช่นนี้
ในยุคของ มิคาอิล กอร์บาชอฟ

กอร์บาชอฟ กล่าวว่า “เป็นเรื่องเขลาที่คิดว่า
ปัญหาที่รุมเร้ามนุษยชาติในวันนี้
สามารถแก้ไขได้ด้วยเครื่องมือและวิธีการที่เคยใช้ได้ผลในอดีต”

หากเขาไม่ได้คิดเช่นนี้

บางทีวันนี้สังคมนิยมโซเวียตยังไม่เปิดประเทศและสันติภาพ
ระหว่างฝ่ายขาว-ฝ่ายแดงคงล้าหลังไปอีกหลายปี

โลกไม่ได้มีเพียงแค่สีขาวกับดำ

ลูกสาวชาวนาเอื้อมมือลงไปในถุงผ้า หยิบกรวดขึ้นมาหนึ่งก้อน
พลันเธอปล่อยกรวดในมือร่วงลงสู่พื้น กลืนหายไปในสีดำและขาวของสวนกรวด

เธอมองหน้าเศรษฐี เอ่ยว่า “ขออภัยที่ข้าพลั้งเผลอปล่อยหินร่วงหล่น
แต่ไม่เป็นไร
ในเมื่อท่านใส่กรวดสีขาวกับสีดำอย่างละหนึ่งก้อนลงไปในถุงนี้
ดังนั้นเมื่อเราเปิดถุงออกดูสีกรวดก้อนที่เหลือ ก็ย่อมรู้ทันทีว่า
กรวดที่ข้าหยิบไปเมื่อครู่เป็นสีอะไร”

ที่ก้นถุงเป็นกรวดสีดำ
”...ดังนั้นกรวดก้อนที่ข้าทำตกย่อมเป็นสีขาว”
ชาวนาพ้นสภาพลูกหนี้และลูกสาวไม่ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกงคนนั้น

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “หากเราพยายามมากพอที่จะแก้ไขปัญหา
เราจะพบว่าทุกปัญหาย่อมมีวิถีทางแก้ไขเสมอ”

About

howforge.com is a place to share thought, innovative thinking, invaluable experiences, raw information, gossip, knowledge, know-how, and many more.