ศึกรักจอมราชันย์ ตอนที่ 9

ฮองเฮาได้เข้ามาถามเกี่ยวกับศพของเอ้อกงกงกับสนมหยู แต่สนมหยูบอกว่านางจะจัดการเอง ฮองเฮาบอกว่านางต้องการจัดการเรื่องนี้เองเพราะนางมีอำนาจดูแลตำหนักหลัง ฮองเฮาได้นำตัวอันเชี่ยนไปที่ตำหนักของนางเอง อันเชี่ยนได้รายการฮองเฮาว่าเอ้อกงกงคิดว่านางคิดนอกใจจึงให้หลานของเอ้อกงกงขืนใจนาง แต่นางไม่ยอมจึงพลั้งมือฆ่าเอ้อกงกงและหลานตายโดยนางเป็นผู้ทำเพียงผู้เดียว ทหารยามขงอู่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอให้ฮองเฮาลงโทษนางเพียงผู้เดียว ระหว่างนั้นหวังกงกงได้เข้ามารายงานว่าเจอโครกระดูกที่สามในบ่อที่ปิดตายทำให้ฮองเฮาตกใจ อันเชี่ยนบอกว่านางไม่รู้ว่าโครงกระดูกที่สามคือใคร ฮองเฮาจึงบอกว่าเรื่องนี้ควรให้มีการยกเลิกไปเสีย ไม่ควรมีการสืบสาวราวเรื่องต่อเพื่อไม่ให้ฮ่องเต้ไม่สบายใจ และอาจทำให้คนมีอำนาจในตำหนักหลังอับอาย สำหรับอันเชี่ยนนั้นให้ลงโทษนางเนื่องจากละทิ้งหน้าที่ในการเตรียมเซ่นไหว้ สำหรับเรื่องอื่นไม่ให้พูดถึงอีก อันเชี่ยนจึงขอบคุณฮองเฮาเป็นอย่างมาก สำหรับบ่อน้ำนั้นก็ให้ปิดตาย

เหล่านางกำนัลกำลังพูดถึงเรื่องราวของอันเชี่ยนเพราะเป็นห่วง นางก็กลับมาพอดี นางบอกว่านางถูกลงโทษให้จุดโคมไฟเนื่องจากไม่ได้ไปเตรียมของเซ่นไหว้  ระหว่างที่นางกำลังจุดโคมไฟในวังหลวงก็ได้เจอขงอู่เพราะมาเข้าเวร ขงอู่ไถ่ถามอันเชี่ยนเพราะเป็นห่วงและถือว่าเป็นชคดีที่ฮองเฮามาช่วยไว้ ขงอู่ได้พยายามปลอบใจอันเชี่ยน อันเชี่ยนบอกไม่ให้ขงอู่มายุ่งกับนางอีกเพราะการเดินทางในวังหลวงของทั้งสองคนนั้นต่างกัน และนางก็เดินคนเดียวได้ ดังนั้นขงอู่ไม่ควรมายุ่งเรื่องของนางอีก

ระหว่างที่ขงอู่ถูกลงโทษจากหัวหน้าให้ซักผ้าเนื่องจากละทิ้งหน้าที่เฉินส่วงก็ได้เข้ามาและเหน็บแหมเรื่องที่ขงอู่ฆ่าคนตายทำให้ขงอู่ชะงัก เฉินส่วงถามขงอู่ว่าเค้าฆ่าเอ้อกงกงกับหลานหรือไม่ ทำไมต้องทำเพื่อผู้หญิงขนาดนี้ และตอนนี้ขงอู่จะเลือกอะไรระหว่างผู้หญิงกับลาภยศ ขงอู่โมโหและกล่าวว่าตอนนี้เค้าไม่สามารถเลือกได้เพราะมีคนเลือกเส้นทางนั้นให้แล้ว เค้าไม่สามารถเลือกได้

สนมหยูกำลังเดินเล่นและได้เจอกับอี้หยิงที่กำลังจะไปที่ตำหนักของฮองเฮานางจึงถาม อี้หยิงตอบว่าเพราะมีข่าวลือไม่ดีเกี่ยวกับสนมหยูนางจึงจะไปเข้าเฝ้าฮองเฮาเพื่อให้ความเป็นธรรม สนมหยูขอบใจแต่นางไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นเพราะเดี๋ยวเรื่องนี้จะเลยเถิดไปกันใหญ่และนางก็มีข่าวลือไม่ดีอยู่แล้ว แต่นางหวังว่านางจะมีน้องสาวทีน่ารักและซื่อสัตย์ต่อนาง สนมหยูได้ให้น้ำหอมเป็นรางวัลแก่อี้หยิง และบอกว่าฮ่องเต้ชอบกลิ่นนี้ และคืนนี้มีงิ้วมาแสดงเพราะฉะนั้นนางควรกลับไปเตรียมตัว อี้หยิงได้สอบถามถึงเป่าฉานเพราะไม่เห็นหน้า แต่สนมหยูบอกว่านางควรใส่ใจเรื่องฮ่องเต้อย่างเดียวก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ อี้หยิงจึงขอตัวกลับ

เอ่อฉุนได้มาหาอี้หยิงและถามเรื่องเป่าฉานว่าเห็นเป่าฉานที่ตำหนักของสนมหยูหรือไม่เพราะมีข่าวลือว่าว่าเป่าฉานโดนผีหลอกในห้องของสนมเฉินและเผลอพูดเรื่องไม่ดีของสนมหยู สนมหยูจึงฆ่านางปิดปากแล้ว อี้หยิงบอกว่าเป็นเรื่องเหลวไหลเพราะตอนนี้เป่าฉานไม่สบายและพักฟื้นอยู่ในตำหนัก ดังนั้นเอ่อฉุนไม่ควรเชื่อความลือพวกนั้น อันเชี่ยนเข้ามาพอดีและเชิญทั้งสองให้เตรียมตัวไปดูงิ้วได้แล้ว หลังจากที่อันเชี่ยนจากไปได้มีนางกำนัลได้มารายงานบางอย่างกับอันเชี่ยน นางจึงไปดู พบว่าเป่าฉานกำลังโวยวายอยู่ในตำหนักของสนมเฉิน และได้ขอร้องให้อันเชี่ยนช่วยนางด้วย เพราะสนมหยูได้ขังนางไว้เพราะนางรู้ความลับของสนมหยู อันเชี่ยนจึงจะแอบพานางไปหาฮองเฮาหลังจากพาเหล่าสาวงามไปที่หอดนตรีเพื่อดูงิ้ว

สนมหยูและเหล่าสาวงามกำลังดูงิ้ว ระหว่างนั้นได้มีกงกงนำรองเท้าของเป่าฉานมาให้สนมหยู ซึ่งการกระทำนั้นได้อยู่ในสายตาของอันเชี่ยน เอ่อฉุน และอี้หยิง สนมหยูได้ขอตัวกลับไปนอน อันเชี่ยนได้สั่งให้นางกำนัลดูเหล่าสาวงามไว้ส่วนนางจะไปดูเป่าฉาน เอ่อฉุนเห็นอันเชี่ยนออกไปจึงสอบถามนางกำนัลแต่นางไม่ยอมบอกอะไร

อันเชี่ยนกำลังจะไปหาเป่าฉานแต่ถูกกงกงของสนมหยูเรียกตัวไว้ให้ไปช่วยทำขนมให้สนมหยูทำให้นางไม่ได้ไปหาเป่าฉาน ระหว่างที่เหล่าสาวกำลังดูงิ้วอยู่นั้น เอ่อฉุนได้หายตัวไป อี้หยิงซึ่งคอยจับตาดูเอ่อฉุนอยู่จึงแอบตามออกไป จนไปเห็นถุงกำยานของเอ่อฉุนตกอยู่ที่หน้าตำหนักของสนมเฉินนางจึงเข้าไปดู และพบว่าสนมหยูอยู่ในตำหนักนั้นพร้อมเป่าฉาน ทำให้รู้ว่าสนมหยูต้องการจะจับตัวคนที่เป็นพวกของฉีกงกงที่สร้างเรื่องผีในตำหนักของสนมเฉินขึ้น พอสนมหยูเห็นว่าเป็นอี้หยิงก็ตกใจ และอี้หยิงเองก็เช่นกัน นางบอกว่านางตามเอ่อฉุนมาและเห็นถุงกำยานตกอยู่หน้าตำหนักนางจึงคิดว่าเอ่อฉุนเข้ามาในนี้นางจึงเข้ามา และนางไม่ได้เป็นคนของฉีกงกงอย่างที่สนมหยูเข้าใจ นางกำลังถูกใส่ร้าย สนมหยูจึงยังไม่ตัดสินใจอะไรและให้นางกลับไปที่พัก ส่วนสนมหยูนั้นได้กลับไปที่หอดนตรี และพบว่าเอ่อฉุนได้นั่งดูงิ้วอยู่ ระหว่างนั้นซุนไป่หยางได้ขอตัวกลับที่พัก สนมหยูจึงได้สอบถามซุนไป่หยางว่าเอ่อฉุนได้ออกไปจากหอดนตรีบ้างหรือไม่ ซุนไป่หยางได้รายงานว่าเอ่อฉุนได้นั่งดูงิ้วตลอดและไม่ได้ไปไหน ทำให้สนมหยูเริ่มชั่งใจว่าที่แท้ใครกันแน่ที่เป็นพวกของฉีกงกง นางได้ให้กงกงคนสนิทไปตามแม่ของอี้หยิงมาพบในวันรุ่งขึ้น

เมื่อซุนไป่หยางกลับไปที่หอแพทย์พบว่าแกงกงอยู่ที่นั่น และทำให้รู้ว่าคืนนี้สนมหยูต้องการจับคนที่เป็นพวกเดียวกับฉีกงกง ฉีกงกงจึงได้วางแผนการขึ้นเพื่อตลบหลัง เมื่อสนมหยูต้องการหาคน ฉีกงกงก็ต้องนำคนไปให้ตามที่สนมหยูต้องการ โดยการใส่ร้ายอี้หยิง ซึ่งเท่ากับเป็นการกำจัดอี้หยิงไปในตัวด้วย โดยขอร้องให้ซุนไป่หยางกราบทูลสนมหยูเมื่อทรงมีรับสั่งถามเกี่ยวกับเอ่อฉุน ว่านางอยู่ดูงิ้วตลอดไม่ได้ไปไหน

เมื่ออี้หยิงกลับไปที่ตำหนัก นางได้ไปหาเอ่อฉุนเพื่อสอบถามเรื่องในคืนนี้และบอกว่าเอ่อฉุนกำลังเล่นละครเพื่อหลอกนาง เพราะอิจฉาที่นางสวยกว่า และเกิดมีปากเสียงกัน ทำให้เอ่อฉุนรู้ว่าความจริงแล้วอี้หยิงรู้มาตลอดเรื่องที่เอ่อฉุนเป็นพวกเดียวกับซู่หลิงและเหยียนฉี และเรื่องที่สลับยาผิด อี้หยิงว่าเอ่อฉุนเรื่องที่เอ่อฉุนใส่ร้ายว่านางเป็นพวกเดียวกับฉีกงกงและให้นางเป็นแพะรับปาก เอ่อฉุนถามว่าที่แท้เรื่องที่สลับยาแตกเพราะอี้หยิงนั้นเองและบอกว่าตอนแรกนางรู้สึกผิดที่ทำกับอี้หยิงเช่นนี้ แต่ตอนนี้นางไม่ได้รู้สึกผิดแล้ว อี้หยิงจึงโมโหและกลับไป

เมื่อแม่ของอี้หยิงเดินทางเข้าวัง ระหว่างทางได้เจอฉีกงกงดักรออยู่ ฉีกงกงได้สอบถามสารทุกข์ ฉีกงกงบอกว่าตอนนี้อี้หยิงกำลังเป็นที่โปรดปรานของสนมหยู แต่สนมหยูไม่ชอบให้มีเส้นสายเกิดขึ้นและการหาพรรคพวก ดังนั้นเมื่อสนมหยูถามเกี่ยวกับตนก็ต้องบอกว่าไม่รู้จัก และต้องไม่บอกใครเรื่องที่ตนมาพบกับนาง แม่ของอี้หยิงรับปากเพราะคิดว่าฉีกงกงหวังดีกับอี้หยิงแต่หารู้ไม่ว่าระหว่างที่ทั้งสองคุยกันนั้นกงกงคนสนิทของสนมหยูได้แอบจับตาดูอยู่   ดังนั้นเมื่อสนมหยูสอบถามเกี่ยวกับอี้หยิง และสอบถามเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอี้หยิงและฉีกงกง แม่ของอี้หยิงจึงบอกว่าทั้งสองไม่ได้รู้จักกันทำให้สนมหยูเข้าใจว่าแม่ของอี้หยิงโกหก และอี้หยิงเป็นพวกเดียวกับฉีกงกง

แม่ของอี้หยิงได้มาพบอี้หยิงและเล่าเรื่องที่สนมหยูถามไถ่ให้ฟัง และนางยังบอกด้วยว่าฉีกงกงได้มาบอกนางก่อนว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควร เพราะฉะนั้นอี้หยิงไม่ต้องกังวล พออี้หยิงได้ฟังดังนั้นก็ตกใจแต่ไม่ได้บอกอะไรแก่แม่ของตนเพราะกลัวนางจะเป็นทุกข์ ระหว่างนั้นเอ่อฉุนได้เข้ามาทักทายแม่ของอี้หยิง แม่ของอี้หยิงได้ฝากให้เอ่อฉุนดูแลอี้หยิงด้วย เอ่อฉุนรับปากและเดินจากไปพร้อมกับสายตาของอี้หยิงที่มองอย่างอาฆาต

สนมหยูได้เรียกตัวฉีกงกงมา และบอกว่านางจะไม่ยอมให้คนของฉีกงกงได้ถวายตัวกับฮ่องเต้เป็นอันขาด และบอกว่าฉีกงกงไม่มีวันชนะนางได้ ขณะนั้นได้มีพระบรมราชองค์การจากฮ่องเต้แต่งตั้งเหล่าสาวงามเพื่อถวายงาน แต่ในองค์การนั้นกลับไม่มีชื่อของอี้หยิงอยู่ ทำให้อี้หยิงเสียใจมาก


ขงอู่กำลังตรวจสอบเหล่าขันทีที่กำลังจะออกจากวัง ระหว่างนั้นหวังกงกงได้มาและถูกตรวจค้น หวังกงกงจึงนำแหวนที่ตนกำลังจะนำออกจากวังไปขายนั้นกลืนเข้าไป ขงอู่เข้าไปช่วยและนำตัวไปที่หอแพทย์ ไต้เท้าซุนได้ช่วยไว้จนนำแหวนออกมาได้ ขงอู่จะเอาโทษกับหวังกงกง หวังกงกงจึงบอกว่าเค้าเก็บได้จากโครงกระดูกที่อยู่ในบ่อน้ำที่ถูกปิดตายไม่ได้ขโมยมา ไต้เท้าซุนได้ยินดังนั้นจึงเข้าไปช่วยพูดให้และขอแหวนวงนั้นจากขงอู่ ขงอู่เห็นว่าไต้เท้าซุนเคยช่วยตนไว้ จึงไม่เอาความ เมื่อขงอู่จากไป ไต้เท้าซุนได้จัดการทำลายแหวนวงนั้น

ไต้เท้าซุนไปตรวจร่างกายให้ฮองเฮา ฮองเฮาได้มอบรางวัลให้ไต้เท้าซุนที่ได้คอยช่วยเหลือนางในทุกเรื่องตั้งแต่ตอนที่นางยังเป็นสนม และขอบใจที่ไต้เท้าซุนได้ทำลายสมบัติที่หวังกงกงขโมยจากโครงกระดูกในบ่อร้าง ส่วนโครงกระดูกนั้นเป็นใครเชื่อว่าไต้เท้าซุนคงรู้ ไต้เท้าซุนได้บอกว่าตนจำเครื่องของสนมเอี้ยนได้ และทราบว่าการหายไปของสนมเอี้ยนนั้นฮองเฮามีส่วนเกี่ยวข้อง ฮองเฮาบอกว่านางไว้ใจไต้เท้าซุน และตอนนี้นางก็คิดว่าแผนกำจัดสนมหยู

ที่หอนางโลม ไต้เท้าซุนได้มาหาซุนไป่หยางพร้อมกับมาเตือนเรื่องที่ซุนไป่หยางไปเข้าพวกกับสนมหยูให้ระวังตัว เพราะถ้าเลือกข้างผิดก็จะเป็นผลร้ายกับตัว ซุนไป่หยางได้ให้ไต้เท้าซุนกลับไปพักผ่อนเพราะเมามากแล้ว ซุนไป่หยางได้พาพ่อของตนกลับบ้าน ภรรยาของซุนไป่หยางได้รับปากจะดูแลพ่อของซุนไป่หยางให้ดี ซุนไป่หยางรู้สึกผิดที่ไม่ได้กลับบ้านจึงอยู่ทานข้าวที่บ้าน ทำให้รู้ว่าภรรยาของตนดูแลรักษาของของตนและคอยตนกลับมาตลอดเวลา และรู้สึกว่าตนไม่เคยใส่ใจภรรยาของตนเลย

เหล่าสาวงามที่ถวายตัวแล้วได้พากันพูดคุยเรื่องของฮ่องเต้ ระหว่างนั้นซุนไป่หยางได้มาตรวจอาการของอี้หยิง และทั้งสองได้มีปากเสียงกัน ซุนไป่หยางต้องการให้นางยอมแพ้ แต่อี้หยิงบอกว่าในตำหนักหลังนอกจากสนมหยูแล้วยังมีคนอื่นที่จะช่วยนางได้ ดังนั้นขอให้ซุนไป่หยางอย่ามายุ่งกับเรื่องของนาง

เมื่อซุนไป่หยางกลับไปที่หอแพทย์เพื่อเขียนใบสั่งยาของอี้หยิง และได้คิดเรื่องนี้จึงได้รายงานว่าอี้หยิงเป็นโรคติดต่อ ฮองเฮาจึงได้ให้อี้หยิงย้ายตำหนัก หวังกงกงได้นำเรื่องนี้ไปรายงานให้สนมหยูรับทราบ สนมหยูบอกให้เป่าฉานคอยจับตาดูไว้ไม่อี้หยิง อันเชี่ยน และฉีกงกงติดต่อกันได้ ของของอี้หยิงได้ถูกเผาจนหมดรวมทั้งตั๋วเงินที่แม่ของนางนำมาให้ อี้หยิงได้พยายามเอาตั๋วเงินนั้นออกจากกองไฟทำให้มือได้รับบาดเจ็บจากกองไฟ

ซุนไป่หยางมาระบายเรื่องนี้กับหญิงที่หอนางโลม เพราะตนต้องการช่วยไม่ให้อี้หยิงล่วงเกินใครได้ เพื่อรักษาชีวิตของตนไว้ แต่ก็เท่ากับทำให้ชีวิตขิงนางในวังหลวงต้องจนลงตราบที่ตนไม่บอกว่านางหายดี และตนคิดว่าตนควรจะลาออกจากวังเพื่อหลบหนีจากเรื่องวุ่นวายของวังหลวง

อันเชี่ยนได้มานั่งคิดถึงอี้หยิงในห้องที่อี้หยิงเคยอยู่ และเอ่อฉุนได้เข้ามาทักทาย เอ่อฉุนได้พยายามดึงอันเชี่ยนมาเป็นพวก แต่อันเชี่ยนบอกว่าตนจะอยู่ในวังอีกไม่นาน ดังนั้นตนคงรับความหวังดีของเอ่อฉุนไม่ได้ และตนได้รับคำสั่งจากสนมหยูให้ย้ายไปที่กองแรงงาน ในอีกครึ่งปีที่ตนอยู่ในวังขอเพียงสนมหยูไม่เคืองแค้นตนแค่นี้อันเชี่ยนก็พอใจแล้ว

ครบกำหนดอยู่ไฟของสนมหยูแล้ว นางจึงให้กงกงนำป้ายถวายงานไปให้ฮ่องเต้ ในคืนนั้นฮ่องเต้ได้ทรงอยู่กับสนมหยูแต่กลับไปก่อนรุ่งสางโดยที่นางไม่รู้ทำให้สนมหยูแปลกใจ และพบว่าตนเองมีผมหงอก และมีริ้วรอยเกิดขึ้น

Post new comment