ผ่านมาได้ไม่นานหลังจากมีกระแส ชุมชนภาษานอกกระแส ก็เริ่มผลิดอกออกผลให้เห็นกัน ตั้งแต่การตั้งชื่อ เนื้อหา และการเสนอแนะ ในที่สุด Codenone ก็จุติ ณ http://www.codenone.com/ รอให้เหล่านักพัฒนาภาษานอกกระแส รวมไปถึงผู้สนใจและคลั่งไคล้ของแปลก

ตอนนี้ใช้ Drupal 5 RC1 และเปิดใช้ Drupal ID ซึ่งทำให้สมาชิกของ Blognone สามารถล็อกอินเข้าใช้ระบบได้ทันทีโดยใช้ @blognone.com เช่นของผม และใช้รหัสผ่านเดียวกัน เข้าไปครั้งแรกอย่าลืมเข้าไปกำหนด e-mail กับ timezone กันซะหน่อย จะได้ไม่พลาดของดีทีหลัง

เห็นแว๊บๆ ตั้งแต่เมื่อวานก่อนนอนตอนดึกๆ ว่ามีอยู่ 2 คนเขียนด้วยหัวข้อเหมือนกัน Blog Tag ทำให้เอะใจอ่านผ่านๆ ก็พบว่าเป็น Chain Blog หรือบล็อกลูกโซ่ โดยที่คนเขียนต้องบอกสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเอง 5 อย่างและส่งต่อให้คน 5 คน ปัญหาคือผมยังไม่ค่อยเข้าใจในกติกาเท่าไหร่ ส่งซ้ำได้รึเปล่าก็ไม่รู้ ถ้าไปอยู่คนท้ายๆ คงจะแย่ไม่น้อย แล้วก็ไม่รู้อีกว่าถ้าหาคนส่งต่อได้ไม่ครบ 5 คนจะต้องออกไปเต้นบนเวทีรึเปล่า เพื่อให้ชีวิตง่ายเข้าก็เลยภาวนาว่าขอให้อยู่อันดับต้นๆ จะเริ่มสายใหม่เลยก็กระไรอยู่ ลองมาดูกันก่อนว่าใครเป็นเสือปืนไว Wiennat (2007-01-03T11:02:06) keng (2007-01-04T00:56:39) mk (2007-01-04T11:12:43) และ plynoi (2007-01-04T14:14:25)

ภาษาสำหรับเขียนโปรแกรมในโลกนี้มีมากมาย แต่ภาษาที่ได้รับความนิยมสูงนั้นมีไม่กี่ภาษา ซึ่งก็มีผลให้ภาษาอื่นที่ไม่ได้รับความนิยมก็ยังคงไม่ได้รับความนิยมต่อไป ในความเป็นจริงแล้ว ทุกภาษามีจุดประสงค์ของตนเอง การเลือกภาษาจึงเป็นเรื่องของความเหมาะสมมากกว่าอารมณ์ และความรู้สึก แต่เอาเข้าจริงการเลือกภาษาสำหรับงานซักงานก็เป็นเรื่องของ The One ที่มีอำนาจตัดสินใจ ถ้าเป็นงานส่วนตัวคุณก็คือ The One แต่โชคร้ายงานส่วนตัวมักจะไม่ใช่งานทำเงิน สุดท้ายก็มี The One มาเลือกภาษาให้เสร็จสรรพ ภาษาที่เลือกมาแต่ละทีก็มักเป็นภาษาที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จัก ยกตัวอย่างเช่น PHP Java และ C# ซึ่งก็ไม่แปลกอะไร นี่เรียกว่า ทีใครทีมัน หรือ ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย ตรงตามหลักการเป๊ะ ถ้าทำงานประจำแล้วต้องทำตามการตัดสินใจของ The One แล้วเก็บกดก็จงกลับบ้านมาเขียนโปรแกรมด้วยภาษาที่ชอบซะ ยิ่งถ้าอยากให้คนอื่นหันมารู้จักภาษา นั้นกับเราด้วยก็ต้องแจกโค้ดของเราซะบ้าง นี่ไม่ใช่การเผยแพร่ลัทธิหรือศาสนาอะไรทั้งสิ้น เพราะเราทำสิ่งที่ชอบ ไม่ได้บังคับให้ใครทำตาม ถ้ามีคนเห็นว่าเราทำดี เค้าอยากทำบ้างก็ไม่แปลกอะไร มีคนบอกว่าภาษาพวกนี้เรียกว่า ภาษานอกกระแส (mk rawitat) มันก็ใช่อยู่ แต่ผมไม่อยากให้คิดว่ามันเป็นแค่ทางเลือกซักเท่าไหร่ ฟังดูแล้วเหมือนมีความสำคัญน้อยไปนิด เลยขอเรียกเป็น Extraordinary ดีกว่า ฟังแล้วดูยิ่งใหญ่ดี จะได้ไม่ด้อยกว่าภาษาอันโด่งดังทั้งหลาย ช่วงนี้กำลังมีการระดมพลของผู้ที่มีภาษาแปลกๆ ในดวงใจ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกันเลยต้องเขียนถึงซะหน่อย

หลังจากที่ปรับแต่งไปเมื่อวันก่อน (อ่านย้อนหลัง) ก็มีคนใจดีช่วยแนะนำ วิธีแก้ปัญหาแบบอื่นๆ เนื่องจากผมก็ยังไม่ค่อยพอใจผลซักเท่าไหร่นัก เลยดีใจเป็นการใหญ่โต ทำให้ต้องเสียเวลามาปรับต่อรอบสอง

สืบเนื่องจาก TLUG ได้กลับมาที่เกษตรอีกครั้งหลังจากที่ย้ายบ้านไปนาน ผมยังโชคดีที่ถึงเวลาต้องเอารถมาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เลยมีเหตุผลที่จะออกจากบ้าน ไหนๆ ก็ออกมาแล้วเลยใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์โดยการเข้าไปฟังซะหน่อย โชคดีอีกรอบที่ห้องประชุมอยู่ตรงข้ามห้องทำงาน สบายแท้ๆ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเสร็จก็นั่งทำงานรอเวลา

หลังจากที่ได้อ่านวิธีปรับแต่งฟอนต์ภาษาไทยบน Ubuntu Edgy ตอน 1 และ ตอน 2 ของคุณ Kamthorn แล้ว ผมก็อยากลองเป็นอย่างมาก แน่เนื่องจากใช้ Tahoma แบบใส่เองมาซะนาน เลยไม่ค่อยมั่นใจว่าจะสวยเท่า เนื่องจากตอนลงเมื่อนานมาแล้วมันไม่มีความสวยงาม เอาซะเลย จนสุดท้ายทนไม่ได้ต้องเอา Tahoma มาใช้